ประกาศ 8 ข้อกำหนดคุมเข้มโควิด-19 พื้นที่สีแดง เริ่ม 4 ม.ค. เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 16) โดยนายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการดังนี้
ข้อ 1 การห้ามใช้อาคารหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียน และสถาบันการศึกษาทุกประเภท ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กำหนดเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อการจัดการเรียน การสอน การสอบ การฝึกอบรมหรือทำกิจกรรมใดๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่เป็นการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารทางไกล หรือด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ และการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์อุปการะแก่บุคคล และเป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการ หรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยได้รับการอนุญาตจากผู้ว่ากทม. หรือผู้ว่าราชการจังหวัด และเป็นโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็กจำนวนนักเรียนทั้งโรงเรียนไม่เกิน 120 คน หรือเป็นโรงเรียนตะเวนชายแดน
ข้อ 2 การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค คือการห้ามจัดกิจกรรมในพื้นที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเช่นการประชุม การสัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของ เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และให้ผู้ว่าราชการกทม.โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่
ข้อ 3 การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าฯกทม.สั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด
ข้อ 4 เงื่อนไขการเปิดดำเนินการในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้สถานที่กิจการ หรือการทำกิจกรรม เปิดดำเนินการภายใต้เงื่อนไขเวลา และการจัดระเบียบตามที่กำหนดคือ การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนผู้บริโภคในร้าน โดยอาจให้เป็นลักษณะการนำกลับไปบริโภคที่อื่น ให้ศบค. กระทรวงมหาดไทย และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณาประเมินกำหนดรูปแบบ และมาตรการดังกล่าวของแต่ละพื้นที่จังหวัดให้เหมาะสม การจำหน่ายสุรา สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮฮล์ในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์การแสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันให้เปิดทำการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ ภายใต้มาตรการที่ทางราชการกำหนด
ข้อ 5 มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ผู้ว่าราชการกทม.หรือผู้ว่าราชการจังหวัดอาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค โดยให้ดำเนินการตามมาตรการ หรือแนวทางตามข้อกำหนดฉบับที่ 15
ข้อ 6 การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจและคัดกรองการเดินทาง โดยใช้เส้นทางคมนาคมข้ามเขตพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด โดยให้ดำเนินการตามศปก.ศบค.กำหนด โดยให้พิจารณาของความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนประชาชน ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น ซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนด อันอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง และทำให้ต้องใช้ระยะเวลาการเดินทางมากกว่าปกติ
ข้อ 7 ขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณารูปแบบการปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง การสลับวันหรือการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงาน เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงาน
ข้อ 8 ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตรวจสอบคัดกรองและเสนอนายกฯเพื่อพิจารณาอนุญาตให้ผ่อนคลายหรือกระชับมาตรการที่ใช้บังคับกับสถานที่กิจการ หรือกิจกรรมเพิ่มเติมได้เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ตามที่เห็นสมควรทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. 64 เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป
ราชกิจจานุเบกษายังได้เผยแพร่กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามบัญชีรายชื่อจังหวัด ประกอบด้วย 1.กรุงเทพมหานคร2.กาญจนบุรี 3.จันทบุรี 4.ฉะเชิงเทรา 5.ชุมพร 6.ชลบุรี 7.ตราด 8.ตาก 9.นครนายก 10.นครปฐม 11.นนทบุรี 12.ปทุมธานี 13.ประจวบคีรีขันธ์ 14.ปราจีนบุรี 15.พระนครศรีอยุธยา 16.เพชรบุรี 17.ราชบุรี18.ระนอง 19.ระยอง 20.ลพบุรี 21.สิงห์บุรี 22.สมุทรปราการ 23.สมุทรสงคราม 24.จ.สมุทรสาคร25.สุพรรณบุรี 26.สระแก้ว 27.สระบุรี 28.อ่างทอง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 3 ม.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19