ย้อนไทม์ไลน์"จ่าคลั่ง"กราดยิงดับ 30 ชีวิตที่โคราช

2021-01-01 11:30:40

ย้อนไทม์ไลน์"จ่าคลั่ง"กราดยิงดับ 30 ชีวิตที่โคราช

Advertisement

วิสามัญดับคลั่ง "จ่าทหาร" บุกห้างเทอร์มินอล 21 โคราช กราดยิง จนท.-ชาวบ้านดับถึง 30 ราย


เหตุสะเทือนขวัญกลางเมืองโคราช เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 ก.พ.2563 หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 187 ม.3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยที่เกิดเหตุพบศพ พ.อ.อนันต์โรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี ผู้บัญชาการกองพันกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ใกล้กันพบศพ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ซึ่งเป็นแม่ยายของ พ.อ.อนันต์โรจน์ จากการตรวจสอบเพิ่มพบ นายพิทยา แก้วพรม ลูกน้องนางอนงค์ ซึ่งเป็นนายหน้าที่ดิน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ โดย นายพิทยา ยืนยันว่าซึ่งผู้ก่อเหตุ คือ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารหน่วยกองพันกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ซึ่งเป็นลูกน้องของ พ.อ.อนันต์โรจน์ ที่ถูกยิงเสียชีวิต


หลังจาก จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ก่อเหตุยิง พ.อ.อนันต์โรจน์ เสียชีวิตพร้อมแม่ยาย จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวไปยังกองพันสรรพาวุธที่ 22 ซึ่งอยู่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ก่อนใช้อาวุธปืนจี้ทหารยาม แล้วยึดเอาปืนเอชเค พร้อมแม็กกาซีน แล้วบุกเข้ากองพันกระสุนที่ 22 ก่อนยิง พลทหารโชคชัย มูลจันทา ทหารเวรรักษาคลังอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บ แล้วขโมยอาวุธปืนจำนวนมากพร้อมกระสุนขนาด 5.56 ม.ม. 736 นัด และชุดประคองสายกระสุนเอ็ม 60 รวม 3 สายใส่รถจี๊ปตรวจการณ์ทหาร ทะเบียนกงจักร 2563 ขับไปทางถนนทางหลวง 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี หลังทราบข่าวเจ้าตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จึงเข้าสกัดการหลบหนีโดยใช้รถตำรวจจอดขวางทาง แต่ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ใช้อาวุธสงครามที่ขโมยมาจากกองพันกระสุนที่ 22 ยิงเปิดทางก่อนขับรถหนีไปที่วัดป่าศรัทธารวม โดยเมื่อถึงประตูด้านหลังของวัด จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ใช้ปืนกลเอ็ม 60 ยิงกราดเข้าใส่ ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง ที่ขับรถเข้าระงับเหตุ ส่งผลให้ ด.ต.ชัชวาลย์ เสียชีวิตคาพวงมาลัยพร้อมอาสาสมัครตำรวจบ้าน จากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ยึดวิทยุสื่อสารของ ด.ต.ชัชวาลย์ ไปดักฟังความเคลื่อนไหวของตำรวจ ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน กราดยิงประชาชนที่สัญจรไปจนเสียชีวิตอีกหลายราย


จากนั้น จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ตัดสินใจขับรถตรวจการณ์ไปยังห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งอยู่ใจกลาง จ.นครราชสีมา ก่อนลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงรถที่วิ่งไป-มา พร้อมไลฟ์เหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยพิมพ์ข้อความระบุว่า ยังไงก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน และพิพม์ข้อความเพิ่มเติมว่า ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบคนอื่น มันคิดว่าจะเอาเงินไปใช้ในนรกได้รึไง โดยหลังจากกราดยิงรถของประชาชน จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ได้บุกเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 สาขานครราชสีมา ในเวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนที่เดินจับจ่ายใช้สอยอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ขณะที่บางส่วนวิ่งหนีตายกันอลม่าน ก่อนที่ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ จะจับประชาชนเป็นตัวประกันไว้จำนวนหนึ่ง


ต่อมา เวลา 17.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศปิดพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ในรัศมี 2 กิโลเมตรจากห้างเทอร์มินอล 21 โดยสั่งห้ามประชาชนหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบ้าน โดยขอให้อยู่ในที่พักอาศัยและขอให้ปิดประ-ตูหน้าต่างให้มิดชิด เนื่องจากเกรงว่า จ.ส.อ.จักรพันธุ์ จะหลบหนีออกจากห้างสรรพสินค้า แล้วไปกราดยิงประชาชนเพิ่มเติม จากนั้น นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เดินทางไปยังศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เพื่อร่วมบัญชาการเหตุการณ์ โดยมี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ออกประกาศห้ามประชาชนในพื้นที่ไม่ให้เข้าใกล้ห้างเทอร์มินอล 21 เพราะเกรงว่าจะถูกยิงเสียชีวิตเพิ่มเติม




กระทั่ง เวลา 19.20 น. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษหนุมาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เกือบ 50 นาย เข้าระงับเหตุการณ์ ก่อนที่ พ.ต.อ.กกฤษณะ จะแถลงความคืบหน้าเหตุสะเทือนขวัญ โดยยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตในขณะนั้นรวม 17 ราย และบาดเจ็บอีก 21 ราย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้แชร์ภาพหรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะส่งกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้ไปเชิญตัว นางจรัลศรี แสงชมภู อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นมารดาของ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ เข้าช่วยเกลี้ยกล่อม จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ให้ปล่อยตัวประกัน และยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ไม่ยินยอมที่จะมอบตัว เจ้าหน้าที่ปฎิบัติการพิเศษหนุมาน จึงเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณชั้น G ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าว


จากนั้น รมช.กลาโหม พร้อม ผบ.ทบ. เข้าร่วมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยเริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนบางส่วนที่ติดค้างอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าออกมา กระทั่งเวลา 02.43 น. เกิดเสียงปืนยิงต่อสู้ ภายในห้างดังกล่าว โดย จ.ส.อ.จักรพันธุ์ พยายามยิงถังแก๊สเพื่อเปิดทางหลบหนีออกไปทางด้านหลังของห้างสรรพสินค้า เมื่อสิ้นเสียงปืนที่เกิดจากการปะทะกัน​ พบเจ้าหน้าที่คอมมานโดถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย ขณะที่หน่วยอรินทราช เสียชีวิต 1 ราย สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถวิสามัญ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ได้สำเร็จในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ.2563


สำหรับชนวนเหตุสยองขวัญที่ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ก่อขึ้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจาก จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ไปกู้เงินสวัสดิการกองทัพบก เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อบ้านในโครงการที่ นางอนงค์ แม่ยาย เป็นเจ้าของ ซึ่งตกลงในราคา 1.1 ล้านบาท โดยมีข้อตกลงว่าจะได้เงินส่วนต่างหรือเงินทอนจำนวน 4 แสนบาทคืน แต่เมื่อ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ไปติดตามทวงถามถึงเงินส่วนต่างจาก นางอนงค์ หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่ง จ.ส.อ.จักรพันธุ์ นัดหมายให้มีการเจรจาเพื่อเคลียร์เรื่องดังกล่าว โดยให้ พ.อ.อนันต์โรจน์ เจ้านาย เป็นพยานร่วมไกล่เกลี่ย แต่สุดท้ายการเจรจาล้มเหลว ด้วยความโมโห จ.ส.อ.จักรพันธุ์ จึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงคู่กรณีเสียชีวิต ก่อนที่จะก่อเหตุลุกลามบานปลายจนถูกวิสามัญ และจากการก่อเหตุดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 30 ราย