"กรมป่าไม้"แจ้งจับ"แม่ธนาธร"ครอบครองที่ดินผิด ก.ม.

2020-12-30 16:00:05

"กรมป่าไม้"แจ้งจับ"แม่ธนาธร"ครอบครองที่ดินผิด ก.ม.

Advertisement

"ป่าไม้" แจ้งจับ "แม่ธนาธร" ครอบครองที่ดินผิด ก.ม. ยันคดี "ปารีณา-ทวี" รุกป่า ชัดเจนหลังปีใหม่


เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วย นายชีวภาพ ชีวธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เข้าแจ้งความเอาผิด นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในข้อหากระทำผิดครอบครองที่ดิน ภทบ.5 จำนวน 90 ไร่, มาตรา 14 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507, มาตรา 54 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ครอบครอง น.ส.2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่, มาตรา 14 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507, มาตรา 54 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พร้อมแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฐานออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดย นายอดิศร กล่าวว่า กรมป่าไม้รับเรื่องร้องเรียนจาก ปชช. และ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ กรมป่าไม้จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจตรวจสอบจึงพบว่า ที่ดินที่ นางสาวสมพร ครอบครองนั้น เป็นพื้นที่ป่าสงวนและเขตหวงห้าม ซึ่งเรื่องนี้ กรมป่าไม้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ เพราะจะนำพื้นที่ป่าที่ นางสมพร ครอบครองไปทำป่าชุมชน แต่เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีการครอบครองโดยมิชอบ ประกอบกับ น.ส.ปารีณา ร้องเรียนมาที่กรมป่าไม้ ถึง 3 ครั้ง เมื่อส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบว่ามีการกระทำผิดจริง


ด้าน ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าฯ กล่าวว่า การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ ทับเอกสาร น.ส.2 ซึ่งพนักงานที่ดินแจ้งว่ามีการซื้อขายเปลี่ยนมือไม่ได้ แต่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนเป็นฉโนดด้วย ซึ่งหลักฐานพวกนี้จะสามารถยืนยันได้ถึงการกระทำความผิด พฤติการณ์ของคนกลุ่มนี้ คือ การทำเอกสารเท็จขึ้นมา ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน แม้ว่าเวลาจะผ่านมานานถึง 21 ก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนคดีรุกพื้นที่ป่าของ น.ส.ปารีณา นั้น ขณะนี้ทางตำรวจได้นำเอกสารส่งไปให้ ผบตร.ลงนามแล้ว ก่อนส่งไปยังรัฐสภา เพื่อขอนำตัว น.ส.ปารีณา ไปส่งมอบต่ออัยการ จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เช่นเดียวกับคดีของนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา พบเอกสารสิทธิ์บางจุดทับซ้อนกับพื้นที่ป่า ก็จะดำเนินคดีไปตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้จะมีความชัดเจนหลังปีใหม่ พร้อมยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ได้มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน