พิพากษาประหาร!"บรรยิน"บงการอุ้มฆ่าพี่ผู้พิพากษา

2020-12-31 12:30:17

พิพากษาประหาร!"บรรยิน"บงการอุ้มฆ่าพี่ผู้พิพากษา

Advertisement

พิพากษาประหารชีวิต "บรรยิน" บงการโอนหุ้น-อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา พ่วงวางแผนแหกคุก


เช้าตรู่ของวันที่ 23 ก.พ.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังบุกจู่โจมจับกุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 6 ราย หลังเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่าเข้าไปมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของ พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2563 เหตุการณ์ดังหล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการตัดสินคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์ เพียง 1 เดือน โดยคดีนี้ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ จะเป็นผู้ตัดสินในคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปแยกสอบปากคำที่กองปราบปราม จากการสอบปากคำ พ.ต.ท.บรรยิน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยินยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่อย่างใด ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของผู้ก่อเหตุที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 1 ราย โดยรับสารภาพว่าก่อเหตุอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมพวกรวม 6 คน


หลักฐานชิ้นสำคัญ คือ คลิปเสียงของคนร้ายที่โทรศัพท์ติดต่อมายังผู้พิพากษากรุงเทพใต้ โดยขอให้ยกฟ้องในคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ควบคุมตัวพี่ชายผู้พิพากษาผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เอาไว้ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ รวมทั้งยังพบหลักฐานสำคัญทางคดีอีกเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมพวก โดยหลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อค้นหาหลักฐานอุ้มฆ่าเผานั่งยาง พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งถูกโยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนพบโทรศัพท์มือถือของพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ถูกโยนทิ้งในแม่น้ำ นอกจากนี้ยังพบกระดูกมนุษย์ เศษยางรถยนต์ เม็ดกระดุมเสื้อ และเศษลวด


วันที่ 14 กันยายน 2563 พ.ต.ท.บรรยิน กลับคำรับสารภาพกลางศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยรับสารภาพว่าเป็นคนวางแผนอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยให้ลูกน้องแต่งชุดตำรวจไปอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่บริเวณหน้าศาล เพื่อต่อรองคดีโอนหุ้นของเสี่ยชูวงษ์ ส่งผลให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยที่ 1 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ศาลจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 ทุกข้อหา คงจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตสถานเดียว โดยให้นับโทษต่อจากคดีโอนหุ้นจำคุก 8 ปีของศาลอาญากรุงเทพใต้


กระทั่งวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ในขณะนั้น ยืนยันว่า พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนแหกคุก จึงออกหมายเรียก นางวราภรณ์ ตั้งภากรณ์ ภรรยาของ พ.ต.ท.บรรยิน และนายณัฐพล นรการ หรือท็อป พยานที่เคยถูกคุมขังร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในเรือนจำ ซึ่งรับรู้ถึงแผนแหกคุกเข้าสอบปากคำ เพื่อหาความเชื่อมโยงกับแผนการชิงตัวที่จะเกิดขึ้น หลังสอบปากคำ นายณัฐพล ให้การว่า พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนให้ทนายประกันตัวตนออกไป เพื่อให้ไปคุยกับอดีต ส..ส.ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าของ พ.ต.ท.บรรยิน โดยวางแผนให้จัดคนพาหลบหนีออกจากเรือนจำ หรือชิงตัวระหว่างทางถูกคุมตัวไปขึ้นศาล ถ้าไม่สำเร็จให้จับภรรยา ผบ.เรือนจำ ไปเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองการออกจากเรือนจำ สุดท้ายมีรายงานว่า พ.ต.ท.บรรยิน พยายามฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 แต่เจ้าหน้าที่ไปพบก่อน จึงเข้าช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน