ทส. เตรียมหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม รองรับเหตุฉุกเฉินด้านมลพิษปีใหม่

2020-12-29 22:55:36

ทส. เตรียมหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม รองรับเหตุฉุกเฉินด้านมลพิษปีใหม่

Advertisement

ทส. เตรียมหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม รองรับเหตุฉุกเฉินด้านมลพิษในช่วงปีใหม่


เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสุขของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทส. ได้มอบหมายให้ คพ. จัดหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เตรียมตอบโต้เหตุฉุกเฉินด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อม เตรียมพร้อมอุปกรณ์ปฏิบัติงาน โดยมีศูนย์กลางที่ คพ. อธิบดีเป็นผู้บัญชาการ และสํานักงานสิ่งแวดล้อมภาค 1 – 16 เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านมลพิษในช่วงเทศกาลปีใหม่ทั้ง 4 วัน หากมีสถานการณ์เหตุฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้น จะมีหน่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อมจาก คพ. หรือจากสํานักงานสิ่งแวดล้อมภาค 1-16 ร่วมปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นในการติดตามตรวจสอบสิ่งแวดล้อมและให้คําแนะนําในการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยหน่วยงานท้องถิ่นหรือประชาชนผู้พบเหตุอุบัติภัยมลพิษและสิ่งแวดล้อมสามารถแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านทางสายด่วน 1650


นายอรรถพล  กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้น คพ. ได้เก็บรวบรวมข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประสานงาน เช่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานขนส่งจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อประสานความร่วมมือด้านข้อมูลและปรึกษาหารือการบูรณาการการทำงานร่วมกัน กำหนดการประชุมร่วมกันในการจัดทำแผนขั้นตอน คู่มือการปฏิบัติงานตอบโต้เหตุฉุกเฉินเชิงบูรณาการ และได้สำรวจแหล่งกำเนิดมลพิษประเภทโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

“ในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ มีปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง เช่น ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กใน กทม.และปริมณฑล ความเสี่ยงการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตรายหรือไฟไหม้ เนื่องจากเป็นวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน สถานประกอบการต่างๆ จะหยุดทำการต่อเนื่อง ประชาชนจะกลับภูมิลําเนาหรือไปท่องเที่ยว จึงขอความร่วมมือส่วนราชการ สถานประกอบการต่างๆ ประชาชน ในการดูแลพื้นที่ เข้มงวดด้านความปลอดภัยในการจัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตรายให้ถูกหลักวิชาการ ดูแลระบบเตือนภัยและการดับเพลิงให้ใช้งานเป็นปกติ ระมัดระวังในการขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายเพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น” นายอรรถพล กล่าว