"กรมควบคุมโรค" เตือน "นักเที่ยว" กักตัว 14 วันหากเยือน "3 ร้าน" ใน กทม. ก่อนคัดกรอง "โควิด"
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค เปิดเผยภาพความคืบหน้าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งใน กทม.และปริมลฑล ว่า จากการสอบสวนโรค แบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคลัสเตอร์ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ซึ่งพบผู้ติดเชื้อกว่า 70 คน ส่วนมากอยู่ในเขตบางขุนเทียน ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มคลัสเตอร์โรงงาน พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนภายในโรงงานทำรองเท้าแห่งหนึ่ง หลังคนงานชาวเมียนมา ติดเชื้อโควิด-19 รวม 7 คน โดยคนแรกเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนโรคคาดว่าปัจจัยเสี่ยงของแพร่เชื้อ คือ การใช้ห้องน้ำร่วมกัน และปฏิบัติงานในสายผลิตเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง โดยตรวจพบนักเที่ยวติดเชื้อโควิด-19 รวม 22 คน จากร้านอาหาร 3 แห่ง ได้แก่ ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ ย่านเทเวศร์, ร้านอีสานกรองแก้ว และ ร้านน้องใหม่พลาซ่า ย่านปิ่นเกล้า โดยร้านน้องใหม่พลาซ่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นพนักงานเสิร์ฟและนักร้อง รวม 12 คน จึงขอความร่วมมือผู้ที่เข้าไปใช้บริการที่ร้านทั้ง 3 แห่งระหว่างวันที่ 15-20 ธ.ค.63 ขอให้กักกันตัวเองเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการป่วยขอให้สวมหน้ากากอนามัยแล้วรีบไปพบแพทย์โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อตรวจคัดกรองและรักษาอาการโดยเร่งด่วน
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังกรมควบคุมโรค เผยแพร่ข่าวดังกล่าว พบประชาชนและผู้ใช้อินเตอร์เน็ตจำนวนมาก ตั้งข้อสังเกตถึงการเปิดเผยข้อมูลไทม์ไลน์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของ กทม.ว่าเพราะเกตุใดจึงมีความล่าช้า และไม่มีความละเอียดไทมไลน์การเดินทางของผู้ป่วย พร้อมตั้งคำถามถึงการเผยแพร่ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งสุดท้าย ซึ่งมีการโพสต์ข้อมูลผ่านเพจส่วนตัวของโฆษก กทม. เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากนั้น กทม.ก็ไม่เคยประกาศไทม์ไลน์เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีกเลย ทั้งๆ ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อกระจายใน กทม.เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน