"บิ๊กตู่"สั่งการ ผบ.ตร.ไปสอบคนติดโควิด-19 เล่นบ่อนไหน ใครเป็นเจ้าของ
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า กรณีที่หลายคนพูดว่ารัฐบาลปล่อยโรคโควิด-19 ออกมาในช่วงนี้ เพื่อหวังประโยชน์อย่างอื่นนั้น ตนมองว่าคนที่คิดอย่างนี้ใช้ไม่ได้ อย่าไปให้ค่าข่าวพวกนี้ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลและคิดเพียงว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนในชาติมีความปลอดภัย สิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันเสมอคือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ชุมชนแออัด หรือเป็นสถานที่ที่พูดคุยกันแล้วทำให้น้ำลาย ลมหายใจ แพร่ไปสู่คนอื่นได้ ต้องเตือนกันทุกคน ทั้งเตือนตัวเอง คนในครอบครัว คนในสังคม ช่วงนี้ประชาชนอาจต้องประสบความยากลำบากอยู่บ้างในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปีใหม่ซึ่งเราทุกคนน่าจะมีความสุข แต่เมื่อมันเกิดการระบาดของโรคขึ้นแล้ว ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปมา แต่เราต้องร่วมมือกันมากขึ้นและต้องช่วยกันทุกภาคส่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสอบสวนดำเนินการเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงขึ้นมาและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย ตนไม่เคยให้ใครไปเอื้อประโยชน์ ขณะเดียวกันคิดว่าหลายคนในรัฐบาลไม่มีใครกล้าไปทำแบบนั้น เว้นแต่จะหลบหนีหรือหลีกเลี่ยง แล้วมีขบวนการทุจริตร่วมกันมีทั้งผู้ให้และผู้รับ เดี๋ยวจะมาหาว่าตนโทษประชาชนอีก แม้ไม่ได้ลงไปดูตำรวจในพื้นที่ แต่ได้สั่งการ ผบ.ตร. แล้ว ซึ่งในวันนี้มีการลงโทษชั้นแรกคือการปล่อยปละละเลย จากนี้ต้องไปสอบต่อว่าคนที่ติดเชื้อมาว่าไปเล่นที่ไหน บ่อนไหน ใครเป็นเจ้าของ เหมือนกรณีลักลอบขนแรงงานต่างด้าว สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่อยู่กับประเทศไทยมานาน เพราะเราไม่ช่วยกัน เอาแต่ตำหนิติติงกัน แล้วพูดจาให้ร้ายคนที่ทำดี ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นต้องดำรงไว้ซึ่งความร่วมมือของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าจะรู้เบาะแสเรื่องใด หรือพบผู้กระทำผิด ขอให้ส่งเรื่องมาที่ตนโดยตรง แล้วจะตรวจสอบให้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ แต่ถ้าไปพูดในสื่อโดยไม่มีข้อมูล พาดหัวข่าวจะทำให้ตื่นตระหนก
ต่อข้อถามถึงกรณี ผวจ.สมุทรสาครติดเชื้อโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาไม่ได้ไปเที่ยวเตร่มาจากที่ไหน แต่เขาไปดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด จึงมีโอกาสติดได้ ในเมื่อจะเป็นหรือไม่เป็น แต่ถ้าถูกตรวจพบแล้ว ก็ต้องรักษาพยาบาล ยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ รักษาก็หาย ตนก็มีโอกาสติดถ้าไปที่นั่นที่นี่เหมือนกับเขาไป อย่างไรก็ตาม ตนได้ตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Rapid Test) ด้วยการเจาะเลือดแล้วเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งการตรวจ Rapid Test ไม่ใช่ว่าตรวจแล้ว ทุกคนจะตื่นตระหนกแล้วไปพาดหัวข่าวว่าในทำเนียบรัฐบาลตรวจด้วยวิธีนี้แล้วพบ 6 คน แต่เมื่อเขาไปตรวจเยื่อในโพรงจมูกแล้วผลออกมาว่าเขาไม่เป็นโรค ผู้สื่อข่าวกลับไม่ออกข่าวให้เลย จึงควรช่วยกันดูแลพื้นที่ในทำเนียบรัฐบาลให้มีความปลอดภัยดีกว่า ที่จริงผู้สื่อข่าวควรไปตรวจ ไม่ห่วงชีวิตตัวเองกันหรืออย่างไร ไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนตื่นตระหนกว่าเป็น แต่อยากให้ไปตรวจสอบว่ามีภูมิต้านทานหรือไม่