สธ.เผยผลตรวจโควิด-19ผู้บริหารลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ทุกคนเป็นลบ
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด 19 กรณี จ.สมุทรสาคร และ จ.กระบี่
นพ.โอภาส กล่าวว่า ผลการตรวจของยืนยันของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ของ ผวจ.สมุทรสาคร พบสารพันธุกรรมโควิด- 19 ขณะนี้ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้ว โดยมีอาการเจ็บคอ ต้องขอให้กำลังใจท่านที่ติดเชื้อจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักในการควบคุมโรคโควิด 19 ในครั้งนี้ สำหรับผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของคณะผู้บริหารที่ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ กำกับการทำงานในพื้นที่และการตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งได้ร่วมประชุมกับ ผวจ.สมุทรสาคร นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ผลตรวจเป็นลบ ส่วนผู้บริหารท่านอื่นซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ อย. อธิบดีทุกกรม และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 8 ผลตรวจยืนยันเป็นลบทุกคน
นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ผู้บริหารทุกคนได้แยกตัวเอง ไม่ทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มาก ปฏิบัติภารกิจเท่าที่จำเป็น โดยเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก 100 เปอร์เซ็นต์ เดินทางโดยรถส่วนบุคคล โดยจะตรวจซ้ำครั้งที่ 2 ใน 3-5 วัน และตรวจเป็นระยะจนครบ 14 วัน ซึ่งมาตรการจะเข้มกว่าคนทั่วไป เพื่อเป็นตัวอย่าง มั่นใจ ห่วงใย ไม่ให้แพร่กระจายไปสู่คนอื่น สำหรับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ ขอให้สังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ไม่คลุกคลีกับคนหมู่มาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่หากไม่สบายใจสามารถมารับการตรวจหาเชื้อที่สถาบันบำราศนราดูรหลังจากนี้อีก 5 วัน
“เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนเราว่าเรามีโอกาสสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวได้ เนื่องจากระยะหลังส่วนใหญ่พบว่าผู้ติดเชื้อมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ อยู่ร่วมในชุมชนและแพร่กระจายเชื้อได้ และขอชื่นชมท่านผู้ว่าราชการจังหวัดที่สวมหน้ากากตลอดเวลา ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมาก รวมทั้งความร่วมมือในการทำมาตรการกักตัว เว้นระยะห่าง เช่นที่นายอนุทินได้ปฏิบัติทันทีที่ทราบว่ามีความเสี่ยง ทำให้คนอื่นๆ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ประเทศไทยจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ถ้าทุกคนร่วมมือกัน” นพ.โอภาส กล่าว
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า วันนี้ มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 144 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศอยู่ในกักกันโรคของรัฐ 15 รายที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ โดย 115 รายเป็นผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในจังหวัดต่าง ๆ อีก 14 รายเกิดจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน จ.สมุทรสาคร ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสม 6,285 ราย หายป่วยแล้ว 4,180 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงอยู่ที่ 60 ราย มีผู้ที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2,045 ราย เกือบทั้งหมดอาการน้อยมาก ผู้ป่วยอาการหนัก 5 ราย
ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศ ณ วันที่ 27 ธ.ค. เวลา 18.00 น. พบผู้ติดเชื้อใน 43 จังหวัด ผู้ติดเชื้อสะสม 454 ราย ระหว่างวันที่ 15-27 ธ.ค. 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดที่ จ.สมุทรสาคร รองลงมาคือ กทม. ผู้ติดเชื้อ 94 ราย และ ระยอง 92 ราย ในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา มีบางจังหวัดมีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดย จ.สมุทรสาครซึ่งพบการระบาดครั้งใหม่ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2563 ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยลง สำหรับศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว จากการค้นหาเชิงรุก ผลการตรวจ 2,052 ราย พบติดเชื้อ 901 ราย อัตราการติดเชื้อร้อยละ 44 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ผู้ติดเชื้อที่พบกลุ่มแรก ๆ กักตัวครบ 10 วัน และตรวจพบมีภูมิคุ้มกันโควิด -19 จึงได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานที่กักกันโรคจำนวน 3 คน
สำหรับพื้นที่ที่ห่างออกมา ได้แก่ ตลาดทะเลไทย ชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 สะพานปลาสมุทรสาคร และ รพ.สมุทรสาคร มีอัตราการติดเชื้อที่ต่ำลงตั้งแต่น้อยกว่าร้อยละ 1 จนถึงร้อยละ 13 ส่วนพื้นที่รอบนอก เช่น บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชุมชนบ้านเอื้ออาทร ชุมชนวัดโกรกกราก ตลาดมหาชัยนิเวศน์ มีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าร้อยละ 2 ล่าสุดได้ตรวจที่ชุมชนตลาดแม่พ่วงจำนวน 197 ราย พบผู้ติดเชื้อ 11 คน คิดเป็นร้อยละ 16 และสถานที่พักคนชรา จำนวน 30 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันกลุ่มเปราะบางที่เมื่อติดเชื้อจะมีโอกาสป่วยรุนแรงได้ ในภาพรวมตรวจคัดกรองแล้ว 11,847 ราย พบติดเชื้อ 1,367 ราย คิดเป็นร้อยละ 11.5
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ร่วมงานเลี้ยงที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เดินทางโดยรถจักรยานยนต์จากหลายจังหวัด วันที่ 11 – 12 ธ.ค. 2563 ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต สงขลา สมุทรสาคร และกทม. ร่วมกับสคร. 11 นครศรีธรรมราช ร่วมกันสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสทั้งคนในครอบครัวและค้นใกล้ชิดได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ลดความเสี่ยงพบการติดเชื้อรุ่นต่อไป รวมพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทั้งสิ้น 20 รายใน 6 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร 1 ราย, กระบี่ 6 ราย เป็นชายอายุ 35 ปี บุตรชาย ภรรยา และญาติ รวมทั้งเทรนเนอร์และเพื่อนหญิงของเทรนเนอร์, ภูเก็ต 3 ราย เป็นชายอายุ 40 ปี และบุตรชาย 2 คน, สงขลา 2 ราย เป็นชายอายุ 27 ปี เพื่อน และมารดาอยู่ที่ จ.นราธิวาส 1 ราย และกรุงเทพมหานคร 7 ราย เป็นพนักงานบริษัทชายอายุ 41 ปี แพร่เชื้อให้เพื่อนที่ทำงานเดียวกันอีก 4 ราย ภรรยาของเพื่อน 2 ราย
“ขอให้ผู้ที่ไปร่วมงานเลี้ยงที่มีประมาณ 100 คน เฝ้าระวังสังเกตอาการ รายงานตัวกับหน่วยงานสาธารณสุขใกล้บ้าน กรณีที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรือจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้รีบไปโรงพยาบาล โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา หลีกเลี่ยงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ แจ้งประวัติการร่วมงาน เพื่อการวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว” นพ.โสภณกล่าว