"อนุทิน" มั่นใจคุมโควิด-19 สมุทรสาครได้ ตั้ง รพ.สนามเพิ่มอีก 1 แห่ง เปิด 31 ธ.ค.
เมื่อวันที่ 27 ที่ รพ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผวจ.สมุทรสาคร ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประชุมติดตามสถานการณ์โรคโควิด 19 จ.สมุทรสาคร
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินงานควบคุมโรคโควิด 19 จ.สมุทรสาคร ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้รวดเร็ว เมื่อพบผู้ติดเชื้อสามารถให้ยาฟาวิพิราเวียร์ได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมเรื่องเตียง ห้องแยกโรค เวชภัณฑ์ ยา รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยสำหรับบุคลากรทางแพทย์ จะดูแลผู้ติดเชื้ออย่างดีที่สุด ในส่วนผู้ประกอบการอาหาร เน้นย้ำเรื่องการขนส่งที่ได้มาตรฐาน การล้างวัตถุดิบให้สะอาดและปรุงอาหารให้สุก ยืนยันว่า อาหารทะเลปรุงสุกกินได้ปลอดภัยไร้โควิด- 19 สำหรับแรงงานต่างด้าวมีการคัดกรองเชิงรุกและจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือคนสมุทรสาครหรือโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง ที่สนามกีฬากลาง จ.สมุทรสาคร เมื่อพบผู้ติดเชื้อก็นำมาแยกดูแล เพื่อไม่ให้นำเชื้อไปติดต่อคนในชุมชน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดกว่าการนำไปโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ สามารถรองรับได้ประมาณ 540 เตียง
โดยขณะตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามบริเวณตลาดกลางกุ้ง ให้บริการผู้ถูกกักกันในหอพักหากเจ็บป่วยมีอาการเล็กน้อย ได้มีตัวแทนชาวเมียนมาได้ขอบคุณที่กระทรวงสาธารณสุขที่ให้การดูแลอย่างดี เนื่องจากมีอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว(อสต.)ช่วยสร้างความเข้าใจ และสัญญาจะให้ความร่วมมืออยู่กักโรคที่ตลาดกลางกุ้ง ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้สวมหน้ากากตลอดเวลาให้มากที่สุดเมื่อออกจากบ้าน ล้างมือตลอดเวลา ไม่คลุกคลีสถานแออัดพลุกพล่าน สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขสามารถไปตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับข้อมูลจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2563 เวลา 14.00 น. มีผู้ป่วยโควิด- 19 รายใหม่ 87 ราย ยอดสะสมรวม 1,455 ราย มาจากการคัดกรองเชิงรุก 1,337 ราย (คัดกรองแล้ว 12,962 ราย ผลทางห้องปฏิบัติการออกแล้ว 10,411 ราย) และการค้นหาในโรงพยาบาล 118 ราย (มาตรวจคัดกรอง 3,747 ราย) อยู่ระหว่างการรักษาในโรงพยาบาล 193 ราย กระจายในโรงพยาบาลของ จ.สมุทรสาคร 111 ราย ส่งต่อรักษานอกจังหวัด 82 ราย และอยู่ในการสังเกตอาการที่กักกัน 1,262 ราย