อย. จับมือกองปราบ และ สมอ. ทลายแหล่งลักลอบนำเข้าและแบ่งบรรจุถุงมือทางการแพทย์เถื่อนย่านปทุมธานี มูลค่ากว่า 300 ล้านพร้อมเร่งขยายผลต่อไป
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข โดย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดย นายธัชชัย หนูสวัสดิ์ นักวิชาการมาตรฐานชำนาญการ ร่วมกันแถลงผลการทลายแหล่งลักลอบนำเข้าและแบ่งบรรจุถุงมือทางการแพทย์ ย่านปทุมธานี สรุปผลดังนี้
ตามที่กองบังคับการปราบปรามได้รับแจ้งว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบทำงาน ณ โรงงานผลิตถุงมือแห่งหนึ่งย่าน จ.ปทุมธานี จึงได้ประสาน อย. และ สมอ. เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว เลขที่ 92/13 หมู่ที่ 5 ถนนลำลูกกา ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จากการตรวจค้นพบเป็นโรงงานเถื่อน มีแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันบรรจุถุงมือไม่ได้มาตรฐานลงกล่อง พบถุงมือที่บรรจุลงกล่องสวมยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อรอส่งไปขายในต่างประเทศกว่า 9,200 กล่อง พร้อมถุงมือที่รอการบรรจุและกล่องเปล่าอีกเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางไว้ทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และเก็บตัวอย่างถุงมือส่งตรวจวิเคราะห์ หากพบว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนดจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นความผิดในเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ดังนี้ ฐานไม่จดทะเบียนสถานประกอบการผลิต/นำเข้าเครื่องมือแพทย์ และฐานผลิต/ขายเครื่องมือแพทย์ปลอม และไม่ปลอดภัยในการใช้ มีโทษสูงสุด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 อีกด้วย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ทำให้ผู้ประกอบการที่ขาดคุณธรรมฉวยโอกาสลักลอบนำเข้าหรือผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพในกลุ่มป้องกันโรคโควิดโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้มาจำหน่าย ซึ่งอาจทำให้พี่น้องประชาชนได้รับอันตราย สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบนำเข้าถุงมือยางบรรจุกระสอบแล้วนำมาแบ่งบรรจุใส่กล่องโดยสวมยี่ห้อต่าง ๆ โดยไม่ได้ขออนุญาต และลักลอบใช้แรงงานต่างด้าวเถื่อนเป็นการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะร่วมกันขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการและดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า ถุงมือทางการแพทย์มีวัตถุประสงค์สำหรับใช้ป้องกันการปนเปื้อนระหว่างผู้ป่วยและผู้ใช้ในการตรวจวินิจฉัยหรือรักษาโรค และใช้สำหรับการจับหรือสัมผัสกับวัสดุทางการแพทย์ที่อาจปนเปื้อน ฉะนั้น ผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะต้องขออนุญาตกับ อย. ก่อน รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เป็นรายเดิมที่ อย. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและแถลงข่าวผลการจับกุมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทย เจ้าหน้าที่จะสืบสวนต่อไปว่ามีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการเกี่ยวกับการได้รับอนุญาตหรือได้รับใบรับรองการส่งออกหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ขอเตือนผู้ที่กำลังหาสินค้าพวกถุงมือทางการแพทย์เพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศว่า ขณะนี้มีขบวนการหลอกลวงมากมาย จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน ทางเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือสายด่วน อย. 1556 ก่อน มิฉะนั้น ท่านอาจจะเสียเงินโดยได้รับของที่ไม่มีคุณภาพ อาจโดนปฏิเสธสินค้าได้ หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือเดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ได้ทุกวันในเวลาราชการ






