สินสอด 39 ล้าน "เปปเปอร์" รัฐศาสตร์ จับมือ “ครีม” ศุภากร เริ่มชีวิตคู่

2020-12-24 18:10:28

สินสอด 39 ล้าน "เปปเปอร์" รัฐศาสตร์ จับมือ “ครีม” ศุภากร เริ่มชีวิตคู่

Advertisement

สละโสดไปอีกคู่แล้วสำหรับ "ดร.รัฐศาสตร์ กรสูต" หรือ "เปปเปอร์" อดีตนักแสดงและนักร้องอดีตสมาชิกบอยแบนด์วง  UHT หลังจากประกาศสละโสดผ่านทางไอจี ล่าสุดก็ได้ฤกษ์ดีควงคู่ "ศุภากร หล่อพิพัฒน์" หรือ "ครีม" แฟนสาวนอกวงการ โดยทั้งคู่เข้าพิธีมงคลสมรสกันไปเมื่อเช้าวันนี้ (24 ธ.ค. 2563) ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ



โดยพิธีเช้าเป็นพิธีหมั้น ยกขบวนขันหมาก หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และยกน้ำชา ซึ่งบรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนานจาก ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย รวมถึงกลุ่มเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่น






สำหรับบรรยากาศงานแถลงข่าวมงคลสมรสของทั้งคู่ได้จัดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงครึ่ง โดยมีเหล่าสื่อมวลชนเฝ้ารอบ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น เมื่อถึงเวลาบ่าวสาวได้ควงคู่กันมา โดยเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีน้ำตาล เจ้าสาวสวมชุดเกาะอกสีขาว ก่อนที่ทั้งคู่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ ศาลาริมน้ำ ห้องบ้านน้อย โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งคู่ทักทายสื่อกันอย่างเป็นกันเอง





เรียกว่าเป็นคู่บ่าวสาวที่ฝ่าวิกฤติโควิดมาได้ ?
เปปเปอร์ : เรียกว่าลุ้นมาตลอดตั้งแต่วันที่จะขอ พยายามดูประกาศว่าเมื่อไหร่จะปลดล็อก  แต่ไม่ได้ปลดล็อกก็เลยตัดสินใจขอที่บ้านที่หมู่บ้านตัวเอง เพราะว่าเราสามารถดูแลความปลอดภัยได้ จนกระทั่งถึงวันแต่ง จริงๆ เราคิดว่าสิ้นปีน่าจะไม่มีเหตุการณ์นี้แล้ว น่าจะกลับมาสู่ปกติ แต่อย่างที่ทราบกันดี ตอนนี้ก็เลยกลับไปสู่แผนเดิมคือจัดแบบนิวนอร์มอล คืออาจจะมีแขกไม่เยอะ เป็นงานที่อบอุ่น และจะเชิญญาติพี่น้อง ญาติสนิทมาร่วมงานของเรา

ครีม  : สิ่งสำคัญคืออยากให้ทุกคนอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย



ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเยอะไหม ?
เปปเปอร์ : จริงๆ ถือว่าโชคดีเพราะตอนแรกที่เรามาจองโรงแรมตอนกลางปี ช่วงนั้นยังล็อกอยู่ ก็ตั้งใจจะทำอยู่ในปริมาณไม่เยอะอยู่แล้ว และก็สามารถดูแลความปลอดภัยได้ทั่วถึง ปรากฏว่าเวลาผ่านไปทีแรกก็ตั้องใจจะจัดงานใหญ่ขึ้น แต่ก็มีเหตุก็เลยโลว์แบ็ก กลับมาสเกลเดิม

ครีม :  จากตอนแรกเราเริ่มที่ 200 จากนั้นเราก็เพิ่มมาเรื่อยๆ เป็น 300 400 ตอนนี้กลับไป 200 เหมือนเดิม เพราะว่าทางรัฐมีมาตรการว่าถ้าจัดงานเกิน 300 คน ต้องแจ้ง





ธีมงานวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ครีม : เราสองคนเป็นคนที่ค่อนข้างเชื่อเรื่องราศี พี่เปปเป็นราศีมังกรซึ่งเป็นธาตุดิน  ส่วนครีมราศีมีนเป็นธาตุน้ำ และช่วงที่เราคบกัน เราสังเกตเห็นว่าเราสองคนมีความคล้ายธาตุดินและธาตุน้ำ ก็เลยเป็นที่มาที่ไปของคอนเซ็ปต์งานนี้ คือผู้ชายธาตุดิน ผู้หญิงธาตุน้ำ

พิธีตอนเช้าเป็นอย่างไรบ้าง ?
เปปเปอร์ : ก็เป็นประเพณีไทยผสมจีน มีการไหว้พระ รับพร มีพิธีสวดไทย และมีพิธียกน้ำชาแบบจีนด้วย

ครีม: ก็จะผสมผสานสองอย่าง เป็นไทยกับจีน ก็มีผู้ใหญ่มาให้พรเราเยอะ ซึ่งทำให้เรารู้สึกอบอุ่น ส่วนเรื่องเสียน้ำตาเราเสียน้ำตาตอนกั้นประตูเพราะขำมากกว่า คือเพื่อนจัดเต็มไลฟ์ให้ดูเจ้าสาวก็เลยได้ดูด้วย



เปปเปอร์ : เราก็คุยกันเพราะเจ้าสาวก็อยู่อีกห้องหนึ่งเราก็เลยคิดว่างั้นก็ไลฟ์เลยก็แล้วกัน ไลฟ์เสร็จเจ้าสาวก็ได้ดูด้วย ผ่านเพจ ดร.รัฐศาสตร์ ซึ่งทุกอย่างสดหมด



คุณพ่อคุณแม่อวยพรอย่างไรบ้าง ?
ครีม: ครอบครัวเขาก็บอกว่าชีวิตคู่เหมือนการวิ่งมาราธอน ต้องใจเย็นๆ ถ้ามีอะไรก็ต้องเดินไปด้วยกัน

เปปเปอร์ : ครอบครัวน้องครีมก็บอกว่า ถ้าเราทำผิดก็ให้ขอโทษ ถ้าเราถูกก็ให้ขอโทษเหมือนกัน (หัวเราะ) ก็เรียกว่าให้ฝ่ายหญิงเป็นผู้นำ การใช้ชีวิตคู่ก็ต้องมีสักคนต้องยอม เดี๋ยวผมยอมเองก็ได้

ครีม: เรียกว่าเรายอมกันและกันเพื่อความรัก



คบกันมากี่ปีแล้ว ?
เปปเปอร์ : ประมาณ 3 ปี

อะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าคนนี้ต้องแต่งแล้วล่ะ ?
เปปเปอร์ : จริงๆ ได้คุยกันว่า เวลาที่ผมอยู่กับน้องครีม ผมรู้สึกว่ามีความสุข และรู้สึกว่าเราไม่ตัองการอะไรแล้ว แค่อยู่ด้วยกันเราก็มีความสุขแล้ว ก็เลยคิดว่าความรู้สึกนี้น่าจะใช่ และผมก็มองเห็นภาพอนาคตของตัวเองกับน้องครีม ว่าเราจะวางแผนอย่างไร และผมรู้สึกว่าคนนี้แหละที่เราเกิดมาเพื่อคู่กัน

ครีม: ต้องบอกก่อนว่าเราสองคน ไม่เคยมีภาพเรื่องการแต่งงานอยู่ในหัวเลย เรียกว่าค่อนข้างไกลมาก คือเราค่อนข้างหวงความโสดของตัวเองพอสมควร แต่พอเราได้มาเจอคนที่ใช่จริงๆ ถ้าเขาเปลี่ยนเราได้ขนาดนี้ ก็คิดว่ามันต้องมีอะไรที่น่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลักษณะนิสัย เป็นเรื่องการเติมเต็มสิ่งต่างๆ วิสัยทัศน์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราอยากเปลี่ยนตัวเองและก้าวไปสู่จุดใหม่ด้วยกัน



วางแผนมีน้องเลยไหม ?
ครีม : ยังค่ะ คือจริงๆ จัดงานแต่งก็เหนื่อยแล้ว ยิ่งจัดช่วงโควิดยิ่งเหนื่อย ก็อยากจะพักกันก่อนสักปีสองปี และอยากจะลุยเรื่องงานด้วย แล้วค่อยคิดเรื่องมีน้อง เรื่องมีทายาทเราค่อนข้างซีเรียสเพราะจิตใจของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ต้องพร้อมด้วย ครีมว่าความสุขของเราสองคนคือการสร้างสมดุลทั้งเรื่องของครอบครัวและเรื่องงานด้วย เอาจริงๆ การที่เราทำงานต่อไป เราก็จะได้มีประสบการณ์ในการที่จะนำไปสอนรุ่นลูกรุ่นหลานเราด้วย ก็อยากจะคีพอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

เปปเปอร์ : คือเราคุยกันว่าอยากใช้ชีวิตคู่กันสักพักหนึ่งก่อน อย่างน้อยสักปีหนึ่ง หลังจากนั้นเราค่อยคุยกันเรื่องของการมีทายาท ตอนนี้เราก็ยังทำงานเหมือนเดิม ยังทำงานทุกวัน และก็คิดว่าการใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน เราต้องวางสเปสซึ่งกันและกัน น้องครีมก็มีงานของเขา ผมก็มีงานของผม แล้วเราก็ต้องหาเวลาตรงกลางเพื่อจะมาเจอกัน มาทำกิจกรรมร่วมกันได้ ทุกคนก็มีภาระหน้าที่และโลกของตัวเองอยู่ การที่เราหาตรงกลางให้กันได้มันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราราบรื่น และใช้ชีวิตคู่กันต่อไปได้ยาวนานขึ้น



สินสอดทองหมั้นโอเคไหม มีอะไรบ้าง ?
ครีม : โอเคสิคะ ให้มากขนาดนี้ต้องโอเคแล้ว (ยิ้ม)

เปปเปอร์ : สินสอดก็จะมีเงินสด 5 ล้าน มีทองคำ 50 บาท และมีที่ดินบ้าน 4 แปลง เครื่องเพชร มูลค่ารวมทั้งสิ้นที่ประกาศเมื่อเช้าก็ประมาณ 39 ล้านบาท เป็นเลขมงคลของเราสองคน

เรื่องเรือนหอ ?
เปปเปอร์: ก็จะมีที่ดินเปล่า ที่ผมมีเก็บเอาไว้ แล้วก็มีบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบัน แล้วก็มีต่อเติมบ้าง ให้เหมาะกับฟังก์ชั่นของเรา

แพลนฮันนีมูน ?
ครีม : ต้องถามก่อนว่าเรามีตัวเลือกด้วยเหรอตอนนี้ (หัวเราะ) ตอนแรกเราแพลนกันว่าจะไปเชียงใหม่ คือเราจองทริปกันก่อนจะเกิดเหตุการณ์ แต่ว่าตอนนี้ต้องดูไปแต่ละวันเลยว่าจะอย่างไร

เปปเปอร์ : เราจองไปแค่วันสองวัน กะว่าจะไปเปลี่ยนบรรยากาศเคาท์ดาวน์สักหน่อย เดี๋ยวดูสถานการณ์อีกที



จะจดทะเบียนสมรสกันเลยไหม ?
ครีม : อันนี้น่าจะเป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่รีบ แต่ถ้าถามว่าอยากจดไหม เรารักกันเราก็อยากจด ส่วนคำนำหน้าจะเปลี่ยนไหม คือเราก็ได้ทั้งคู่นะ ไม่ได้ซีเรียสอะไร

เห็นว่าทั้งคู่ไม่ซีเรียสเรื่องการแต่งงาน พอวันนี้ได้มาแต่งงานรู้สึกอย่างไร ?
เปปเปอร์ : อย่างตัวผมเอง ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมีการแต่งงาน หรือมีชีวิตคู่ ต้องมีครอบครัวกับใคร คือเรามองภาพตัวเองไม่ออกจริงๆ คือเรามีความสุข สนุก กับการทำงาน แต่พอผมได้เจอน้องครีม ผมรู้สึก ว่าผมมีความฝันใหม่เกิดขึ้น เมื่อก่อนผมฝันเรื่องงานอย่างเดียว อยากทำงาน อยากสำเร็จ แต่วันนี้ผมเริ่มมีความฝันใหม่ๆ อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีลูก มีทายาท อยากจะมีคนอยู่ข้างๆ จะทำอะไรคิดอะไรก็ปรึกษากัน ทำด้วยกัน และรู้สึกว่าชีวิตแบบนี้มันเติมเต็มกว่า มีความสุขมากกว่า

ครีม : ส่วนตัวครีม ครีมเป็นคนที่ค่อนข้างมีมาตราฐาน ในการมีชีวิตครอบครัวค่อนข้างสูง เพราะว่าถ้าคนไหนเราทำให้เขามีความสุข แล้วเขาทำให้เรามีความสุขไม่ได้เท่าๆกัน เราไม่แต่งดีกว่า เพราะรู้สึกว่าจะทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง และเราก็จะผิดเอง พอมาเจอพี่เปปก็รู้สึกเหมือนกันว่า คนนี้ไม่เหมือนใครจริงๆ เขาทำให้เรารู้สึกท้าทาย เขาทำให้เราดีขึ้น เพื่อที่จะทำให้เขามีความสุขมากขึ้น และเขาก็ทำให้เรามีความสุขด้วย



วันนี้อยากขอบคุณใครเป็นพิเศษไหม ?
เปปเปอร์ : ก่อนอื่นเลยต้องขอขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ของน้องครีม  รวมถึงญาติๆ ทุกคน พี่ชายน้องชายของผมและน้องครีม เพื่อนฝูงที่เราค่อยช่วยเหลือกัน มีปัญหาก็ปรึกษากัน มีอะไรเราก็แชร์กัน และต้องขอบคุณน้องครีม ที่เข้ามาในชีวิตผม ทำให้ผมเข้าใจเรื่องความรัก และมีความรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษของผม เพราะเป็นวันที่ผมมีครอบครัวจริงๆ ผมก็จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด และคิดว่าหลังจากวันนี้ก็จะอยู่ในสถานะใหม่ เป็นสถานะที่ต้องคิดถึงคนข้างๆ ตลอดเวลา และต้องพยายามที่จะสร้างครอบครัวสร้างสถาบันที่เป็นพื้นฐานของชีวิตให้ดีที่สุด

ครีม : ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้เราเจอกัน จริงๆ แล้วเหมือนเรื่องราวของเรา การที่เราได้มาพบเจอกันมันเป็นเรื่องบังเอิญ มากเลย มีทั้งเพื่อน บุคคลที่สาม และจังหวะต่างๆ ที่ทำให้เราได้มาเจอกัน ก็ต้องขอบคุณคนข้างๆ ที่ทำให้เราได้มีวันนี้

วันนี้มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันบ้าง ?
เปปเปอร์ : ผมเคยสัญญากับน้องครีมว่า ผมจะจับมือกับน้องครีมอย่างนี้ตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ครีม : ครีมสัญญาว่า ถ้าเราแต่งงานแล้ว เราจะมีบทบาทที่มากขึ้น เป็นทั้งภรรยา เป็นทั้งแม่ ก็จะทำทุกบทบาทให้ดีที่สุด