เกาหลีใต้ลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ครอบคลุมประชาชน 16 ล้านคน ขณะที่เกาหลีใต้เผชิญหน้ากับการระบาดรอบ 3 ของไวรัสโควิด-19 จากการเปิดเผยผ่านทางโทรทัศน์ของนายกรัฐมนตรีช็อง เซ-กยุน
รัฐบาลเกาหลีใต้ก็กำลังถูกกดดันอย่างหนักจากสาธารณชน กรณีแผนการจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่ประเทศพยายามดิ้นรนอย่างหนักในการควบคุมการระบาดรอบ 3 ของไวรัสโควิด ซึ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นครั้งที่ 2 ในวันพุธ
วัคซีนของไฟเซอร์ บริษัทยาของสหรัฐ ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค ของเยอรมนี จะเพียงพอต่อประชาชน 10 ล้านคน และการขนส่งคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีหน้า อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีช็อง บอกว่า กำลังพยายามระดมความสามารถทั้งหมดของประเทศเพื่อให้มีการขนส่งวัคซีนภายในไตรมาสที่ 2 ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากัน
ช็อง บอกอีกว่า วัคซีนจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน บริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐเช่นกัน ถูกสั่งเพิ่มอีกจากตอนแรกสำหรับประชาชน 2 ล้านคน เป็น 6 ล้านคน และจะพร้อมฉีดจากไตรมาสที่ 2
ข้อตกลงซื้อวัคซีนของไฟเซอร์และแจนส์เซ่น ก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการรัฐบาลในการซื้อวัคซีนให้เพียงพอกับการฉีดให้ประชาชน 85 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศ 52 ล้านคน
ส่วนบริษัทยาอื่น ๆ อีก 2 บริษัท จากทั้งหมด 4 บริษัท ที่เกาหลีใต้สั่งซื้อ คือบริษัทแอสตราเซเนกา และโมเดอร์นา
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 985 รายในช่วงเที่ยงคืนวันพุธ รวมติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ 53,533 ราย และเสียชีวิตแล้ว 756 ราย
เกาหลีใต้สั่งปิดรีสอร์ทเล่นสกีและแหล่งท่องเที่ยวฤดูหนาว และห้ามประชาชนรวมกลุ่มกันกเกิด 4 คน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่
