ศาลเจ้าเมจิ หนึ่งในศาสนสถานสำคัญ ของศาสนาชินโต ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น จะปิดประตูไม่ให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ เป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการระบาด ระลอกที่ 3 ของไวรัสโควิด-19
การเข้ากราบไหว้สักการะ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในศาลเจ้าชินโตและวัดพุทธ นับเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ ของวันหยุดเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในญี่ปุ่น ศาสนาสถานเหล่านี้หลายแห่ง เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนที่มีจิตศรัทธา ได้สวดมนต์ข้ามปี ในเวลาเที่ยงคืนคาบเกี่ยว
ช่วงฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ในปีที่ผ่านมา มีประชาชนประมาณ 3.1 ล้านคน เดินทางไปที่ศาลเจ้าเมจิ ในกรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 30 ธ.ค. จนถึงวันที่ 3 ม.ค. แต่ปีนี้ ศาลเจ้าเมจิจะงดให้ประชาชนเข้า เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยโฆษกหญิงของศาลฯ เผยว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มขนาดใหญ่ ทางศาลได้ประกาศให้ประชาชน เลื่อนการเข้ากราบไหว้ขอพรออกไป
ความเคลื่อนไหวของศาลเมจิ หนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น มีขึ้นขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเป็นสถิติใหม่รายวัน ในระยะหลายสัปดาห์ล่าสุด
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ในศาลเจ้าชินโตบางแห่ง รวมถึงศาลเจ้ายาซากะ ในเมืองเกียวโตซึ่งเมื่อต้นปีนี้ได้เปลี่ยนจากการเคาะระฆัง ด้วยการใช้เชือกดึง เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประชาชนใช้มือเลื่อนผ่านจอเซนเซอร์ ทำให้เกิดเสียงเคาะระฆัง ดังถี่เป็นประวัติการณ์.