ศาลอาญา ยกฟ้อง "จาตุรนต์" ไร้ผิด "ม.116" ปมแถลงข่าวต่อต้าน คสช.ทำรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. มีรายงานว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ พร้อมนายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.3055/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง หลังตกเป็นจำเลยในความผิดฐานฝ่าฝืนขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 37/2557, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (3) และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2557 นายจาตุรนต์ ได้แถลงข่าวต่อต้านการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช. โดยชี้ให้ประชาชนเห็นว่าการเข้าควบคุมอำนาจของ คสช.เป็นสิ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเพียงแต่ไปงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนต่างประเทศ ที่มีผู้เข้าฟังประมาณ 80 คน จำเลยได้แถลงเป็นภาษาอังกฤษใจความสรุปได้ว่าไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจของ คสช. จึงขอเรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประชาชนโดยจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สึด พร้อมขอให้ประชาชนอดทนและแสดงออกอย่างสันติวิธี แม้การกระทำของจำเลยอาจเป็นเหตุให้เกิดการยุยงปลุกปั่น แล้วออกมาต่อต้านการทำรัฐประหารจนเกิดความไม่สงบในบ้านเมือง แต่ความผิดตาม ม.116 ต้องปรากฏโดยชัดแจ้งว่าเป็นการละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน การที่จำเลยไปแถลงข่าวดังกล่าวเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการแสดงออกโดยคำพูดที่ทุกคนมีสิทธิกระทำได้ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก และไม่ปรากฏว่าหลังจากจำเลยแถลงข่าวแล้ว จะมีประชาชนออกมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย หรือก่อไม่สงบในสังคม ส่วนข้อความที่จำเลยแถลงไม่มีข้อความใดที่มีเจตนาจะให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้าน คสช.
ประกอบกับโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานใดมาแสดงให้เห็นว่า จำเลยเป็นผู้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เฟซบุ๊ก Chaturon.FanPage แต่กลับได้ข้อเท็จจริงจากพยานว่า หลังจากจำเลยแถลงข่าว จำเลยถูกควบคุมตัวและไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ ซึ่งสอดคล้องกับพยานจำเลยที่ยืนยันว่า หลังจากถูกทหารเข้าควบคุมตัว จำเลยถูกยึดโทรศัพท์มือถือ จึงไม่มีเครื่องมือสื่อสาร และไม่สามารถติดต่อเครือญาติได้ ส่วนข้อความที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กตามที่โจทก์ฟ้องอยู่ระหว่างจำเลยถูกควบคุมตัว พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังไม่มีมูลเพียงพอที่จะรับฟังได้ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง