“ก้อย” เผย “พี่ตูน” ทำซีนประทับใจจนน้ำตาไหล หลังนอน รพ. นาน 10 วัน

2020-12-22 11:40:32

“ก้อย” เผย “พี่ตูน” ทำซีนประทับใจจนน้ำตาไหล หลังนอน รพ. นาน 10 วัน

Advertisement


เรียบๆ ตามสไตล์ “ก้อย รัชวิน” เผยเรื่องราวสุดน่ารักจนน้ำตาแตก หลังนอนเฝ้าสามี “ตูน บอดี้สแลม” ที่โรงพยาบาลนาน 10 วัน

ทำหน้าภรรยาที่ดีคอยฝอยไข้สามีสุดที่รักอย่าง “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” มาเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว สำหรับนักแสดงสาว “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” หลังจากที่รอกเกอร์หนุ่ม ป่วยด้วยอาการกระดูกคอกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้แขนซ้ายมีอาการชา นิ้วมือข้างซ้ายบังคับไม่ได้เป็นบางนิ้ว โดยทางทีมแพทย์ก็ได้ให้หนุ่มตูนนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หากการรักษาเป็นไปในทางที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

(อ่านข่าว : “พี่ตูน” ถูกแพทย์สั่งพัก 2 เดือน เพื่อรักษาอาการกระดูกคอกดทับเส้นประสาท)

(อ่านข่าว : “ตูน บอดี้สแลม” ขอบคุณกำลังใจกว่า 40 ปี หลังป่วยกระดูกคอกดทับเส้นประสาท)





ซึ่งตลอดระยะเวลาที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล “ตูน บอดี้สแลม” ก็ได้รับกำลังใจจากเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมวงการและแฟนคลับอย่างคับคั่งเสมอมา แถมยังมียาใจที่สำคัญอย่าง “ก้อย รัชวิน” คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

อย่างล่าสุด ก้อยก็ได้เผยโมเมนต์สุดน่ารักสุดประทับใจที่คุณสามีทำให้ที่โรงพยาบาล จนทำเอาคนเฝ้าไข้อย่างเธอนั้นบ่อน้ำตาแตกเลยทีเดียว โดย “ก้อย รัชวิน” ก็ได้เผยว่า….



“DAY 10 ...."Baby I'm home"  ใช้ชีวิตนอนอยู่ รพ.มาครบวันที่ 10 วันนี้ออกไปทำงานที่รับไว้ตั้งแต่ก่อนพี่ตูนเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า ด้วยความคิดถึงและเป็นห่วงคนนอนเตียงข้างๆ อยากรีบกลับมาดูแลให้เร็วที่สุด...




ทุกคืนก้อยจะต้องลากโซฟาเบดมาข้างๆ เตียงพี่ตูน เอาผ้ามาปู จัดที่นอนให้เรียบร้อยและพับเก็บเข้าที่ในตอนเช้า ... เมื่อกี้ก้อยกลับมาถึงโรงพยาบาลตอน5ทุ่มครึ่ง พี่ตูนยังไม่นอนและรอก้อยอยู่ (ก้อยแอบตกใจว่าทำไมนอนดึก เพราะปกติ 4ทุ่มก็จะเข้านอนแล้ว เค้าบอกว่างีบไปเมื่อตอนเย็น)

พอเดินเข้าไปในห้องก็พบว่า โซฟาถูกจัดเป็นที่นอนไว้ให้ก้อยเรียบร้อยแล้ว หนูทำงานมาเหนื่อย มาถึงจะได้นอนเลย พี่ตูนพูดเรียบๆ ตามสไตล์ แต่ก้อยนี่.... น้ำตาไหลลลลล ฮือออออออ

ป.ล.น้องหมูเป็ดก็มานอนเฝ้าพี่ตูนด้วย #TogetherForeverKT ”



เรียกได้ว่าเป็นความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ แต่น่ารักไม่น้อยเลยทีเดียว

ติดตามข่าวบันเทิงเพิ่มเติม  




ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : rachwinwong