"อนุทิน"นำทีมหารือร่วมคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ วางแผนพัฒนาและสนับสนุนวัคซีนโควิด 19
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ หารือแนวทางการพัฒนาและสนับสนุนการผลิตวัคซีนโควิด 19 ของคนไทย ร่วมกับ ศ.นพ.สุทธิพงศ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผอ.พัฒนาวัคซีนโควิด 19 คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ
นายอนุทิน กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อประชาชนไทย มี 3 แนวทาง คือ 1. การทำความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อให้มีโอกาสได้วัคซีนเร็วขึ้น 2. การจัดซื้อวัคซีนเพื่อนำมาใช้ในประเทศ ซึ่งสองแนวทางนี้ประเทศไทยมีความร่วมมือกับบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัดและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในการจองและซื้อวัคซีนจำนวน 26 ล้านโดส คาดว่าจะฉีดให้แก่ประชาชนไทยกลุ่มเป้าหมายได้ในกลางปี 2564 และ 3. การวิจัยพัฒนาวัคซีนในประเทศเพื่อให้ผลิตได้เอง ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน อย่างการพัฒนาวัคซีนชนิด mRNA ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้สนับสนุนงบในการดำเนินการไปแล้ว 355 ล้านบาท
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าการหารือร่วมกับทีมพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีข้อสรุปว่า จะมีการตั้งคณะทำงานร่วม 2 หน่วยงาน 1 ชุด ซึ่งฝั่งกระทรวงสาธารณสุขมีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมควบคุมโรค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นตัวแทน หารือร่วมกับทีมวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ได้แผนการดำเนินงานการพัฒนาและผลิตวัคซีนโควิด 19 ให้ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลในการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นหากสามารถดำเนินการได้ตามแผน คาดว่าจะทดลองวัคซีนในมนุษย์ระยะที่ 1 เข็มแรกได้หลังสงกรานต์ 2564