กษัตริย์สวีเดน ทรงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ล้มเหลวในการแก้ปัญหาการรระบาดของไวรัสโควิด-19 ไร้มาตรการล็อคดาวน์จนทำให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ของสวีเดน ตรัสว่า ประเทศของพระองค์ “ล้มเหลว” ในการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล้มเหลวในการรักษาชีวิตประชาชน เพราะการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ในการจัดการกับการระบาดของไวรัสโควิด พระองค์ทรงวิพากษ์วิจารณ์นโยบายป้องกันโควิดของรัฐบาลอย่างรุนแรง ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ
“ข้าพเจ้าเชื่อว่าพวกเราล้มเหลว” พระดำรัสตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงตรัสผ่านรายการของสถานีโทรทัศน์ เอสวีที ในวันพุธที่ 16 ธันวาคม ซึ่งจะนำไปออกอากาศเต็มในวันที่ 21 ธันวาคม เป็นพระราชดำรัสต่อประชาชนเนื่องในเทศกาลคริสต์มาสประจำปี
สวีเดนสวนกระแสกับประเทศส่วนใหญ่ที่ต่างพากันล็อคดาวน์ประเทศและสวมหน้ากากอนามัย, โรงเรียน, ร้านอาหารและธุรกิจส่วนใหญ่ก็ยังเปิดให้บริการ และแค่อาศัยการเว้นระยะห่างทางสังคมแบบสมัครใจ และแนะนำให้รักษาสุขภาพอนามัย เพื่อชะลอการระบาดของไวรัส
กษัตริย์กุสตาฟ พระชนมายุ 74 พรรษา ซึ่งพระโอรสและพระสุณิษา (ลูกสะใภ้) ของพระองค์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนที่แล้ว ไม่มีอำนาจทางการเมืองอย่างเป็นทางการและแทบจะไม่เคยตรัสถึงปัญหาในปัจจุบันและปัญหาการเมือง แม้ว่าพระองค์จะเคยตรัสให้กำลังใจประชาชนระหว่างการระบาดของไวรัสโควิดก็ตาม ครั้งนี้พระองค์ทรงตรัสเน้นถึงผลกระทบที่กำลังรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงทางการเมืองที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นจากกษัตริย์ ที่ปฏิบัติภารกิจด้านพิธีการเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ สวีเดน ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ไม่ใช้มาตรการล็อคดาวน์ทั้งประเทศ มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดแล้วเกือบ 350,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 7,800 ราย มากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในแถบสแกนดิเนเวียเมื่อเทียบต่อหัวประชากร แต่ก็น้อยกว่าอังกฤษ, อิตาลี, สเปน หรือฝรั่งเศส ซึ่งทั้งหมดล้วนใช้มาตรการล็อคดาวน์
ด้านนายกรัฐมนตรีสเตฟาน ลอฟเว่น ของสวีเดน แถลงว่า เขาเห็นด้วยเลยกับพระราชดำรัสของพระองค์ โดยนายลอฟเว่น กล่าวกับนักข่าวว่า แน่นอน ความจริงที่ว่า มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ คงไม่สามารถพิจารณาเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากความล้มเหลว ประชาชนสวีเดนได้รับความทุกข์ยากอย่างหนัก สมาชิกในครอบครัวที่เกิดเหตุไม่สามารถกล่าวคำร่ำลากับสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตได้ ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดและบอบช้ำทางจิตใจ ที่ไม่สามารถกว่าคำอำลาที่อบอุ่นได้
สวีเดนไม่เคยล็อคดาวน์ทั่วประเทศ หรือบังคับสวมหน้ากากอนามัย บาร์และร้านอาหารก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม ในต้นสัปดาห์นี้ โรงเรียนทั่วเขตกรุงสตอกโฮล์ม ถูกขอร้องให้เปลี่ยนเป็นการเรียนการสอนแบบเว้นระยะห่างสำหรับเด็กอายุ 13-15 ปีเป็นครั้งแรก เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเป็นมาตรการตอบโต้หลังผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ในวันจันทร์นี้ ก็มีคำสั่งให้เว้นระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศครั้งใหม่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย และยังแนะนำให้ประชาชนรวมกลุ่มกันได้สูงสุด 8 คนเท่านั้น, ให้รวมตัวกลางแจ้งหากเป็นไปได้ และหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยรถไฟ หรือรถบัส