สหรัฐจ่ออนุมัติวัคซีนโควิดของโมเดอร์นา ขณะติดเชื้อพุ่งเกิน 17 ล้านราย

2020-12-18 07:45:14

สหรัฐจ่ออนุมัติวัคซีนโควิดของโมเดอร์นา ขณะติดเชื้อพุ่งเกิน 17 ล้านราย

Advertisement

คณะที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ (FDA) เสนอแนะให้รับรองวัคซีนต้านโควิด-19 ชนิดที่ 2 ของบริษัทโมเดอร์นา เพื่อใช้ฉุกเฉินในสหรัฐ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ ก็พุ่งทะลุ 17 ล้านรายไปแล้วในวันพฤหัสบดี ซึ่งพัฒนาการดังกล่าวมีขึ้นขณะที่สหรัฐกำลังเผชิญหน้ากับอัตราการติดเชื้อรายวัน, อัตราการเสียชีวิตรายวัน และจำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาล พุ่งสูงทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง หลังจากเริ่มแจกจ่ายและฉีดวัคซีนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

คณะที่ปรึกษาของเอฟดีเอ ลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นในวันพฤหัสบดี เห็นชอบให้ใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา ฉุกเฉิน ถือเป็นการรับประกันทางเลือกที่ 2 สำหรับการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด ที่รุมเร้าประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยคณะกรรมการชุดนี้ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 20-0 ไม่ออกเสียง 1 เสียง เห็นว่า ประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าความเสี่ยงในประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หนึ่งสัปดาห์หลังคณะกรรมการชุดเดียวกันนี้ สนับสนุนวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค บริษัทหุ้นส่วนจากเยอรมนี นำไปสู่การอนุมัติการใช้วัคซีนฉุกเฉินของทางเอฟดีเอในอีกหนึ่งวันต่อมา

มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า เอฟดีเอจะอนุมัติการใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา บริษัทยาชั้นนำของสหรัฐอีกแห่งหนึ่งอย่างเร็วสุดในช่วงดึกวันพฤหัสบดีหรือไม่ก็วันศุกร์ อย่างเช่นที่เคยอนุมัติวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทค เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มความหวังให้สหรัฐในการสยบไวรัสโควิด-19 หลังมีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 300,000 ราย วัคซีนของโมเดอร์นา มีกำหนดเริ่มแจกจ่ายเร็วที่สุดทันทีที่เอฟดีเอไฟเขียว




นายอเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ กล่าวกับซีเอ็นบีซีในวันพฤหัสบดีว่า วัคซีน 5.9 ล้านโดส จะถูกแจกจ่ายไปยังรัฐต่าง ๆ และเมืองใหญ่และพร้อมที่จะขนส่งไปทั่วประเทศ

วันซีนต้านโควิด-19 ของโมเดอร์นา ไม่เหมือนกับวันซีนของไฟเซอร์ ที่มีความท้าทายที่ซับซ้อนในการแจกจ่าย เนื่องจากต้องขนส่งและเก็บที่อุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ซึ่งวัคซีนของโมเดอร์นา ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในภาชนะที่มีความเย็นจัดเป็นพิเศษ หรือใส่น้ำแข็งแห้งจำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการขนส่งไปยังพื้นที่ชนบทห่างไกล



เจ้าหน้าที่สหรัฐ กล่าวว่า พวกเขาคาดว่าจะมีวัคซีนโควิด 40 ล้านโดสของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นาภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชน 20 ล้านคน วัคซีนทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 ได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์โดยไร้ความกังวลเรื่องความปลอดภัย

เอกสารที่เตรียมโดยนักวิทยาศาสตร์ของเอฟดีเอ และเผยแพร่ก่อนการประชุม ระบุว่า วัคซีนโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโควิด-19 ก็ต่อเมื่อ แต่ละคนต้องฉีด 2 โดสเท่านั้น และไม่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี จะต้องอนุมัติวัคซีนก่อนจะสามารถฉีดให้ประชาชนได้ และคณะที่ปรึกษาของซีดีพี คาดว่าจะประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันเสาร์ ซึ่งก็เพิ่มความเป็นไปได้ว่า สหรัฐอาจได้ใช้วัคซีนของโมเดอร์นาในสัปดาห์หน้า



วัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีคล้ายกับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์และบริษัทไบโอเอนเท็ค โดยใช้ชิ้นส่วนรหัสพันธุกรรมของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสามารถตรวจจับและต่อสู้กับเชื้อดังกล่าวได้ โดยวัคซีนของทั้งสองบริษัทจะแบ่งให้เป็นสองโดส ห่างกันครั้งละหลายสัปดาห์

การพัฒนาวัคซีนทั้งสองอย่างรวดเร็วถือว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ในการเอาชนะโควิด-19 โดย ดร. เจซเซ กู๊ดแมน อดีตหัวหน้าแผนกวัคซีนของ FDA ระบุว่า วัคซีนทั้งสองมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวัคซีนทั้งสองสูตรในกลุ่มอาสาสมัครเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น และจะต้องมีการติดตามผลต่อไปเพื่อตอบคำถามที่สำคัญ เช่น วัคซีนจะสร้างภูมิคุ้มกันได้นานเท่าใด

ส่วนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่ผ่านการอนุมัติไปแล้วนั้น ก็ได้ฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ไปหลายร้อยคนในสัปดาห์นี้ และเครือข่ายร้านยา ทั้งซีวีเอสและวอลกรีนส์ ก็ช่วยฉีดวัคซีนให้ผู้ที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชราและเจ้าหน้าที่ด้วย

แต่ขณะที่เริ่มมีการฉีดวัคซีน ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19, ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิต กลับเพิ่มสูงขึ้นในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั่วประเทศเตือนว่า พวกเขาอาจไม่มีพื้นที่และพลังงานเหลือที่จะดูแลผู้ติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ



จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยรายวันตลอดหนึ่งสัปดาห์ อยู่ที่ 215,729 รายในวันพุธ สูงเป็นสถิติจากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากตัวเลขเฉลี่ยรายวันในช่วงที่ไวรัสระบาดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม ส่วนผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดในวันเดียวเมื่อวันพุธ อยู่ที่ 247,403 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 2,569 รายตลอดสัปดาห์ที่แล้ว และในวันพุธมีผู้เสียชีวิต 3,656 ราย ในวันเดียว

ส่วนตัวเลขผู้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จนถึงวันพุธ อยู่ที่ 113,090 ราย สูงที่สุด จากข้อมูลของโครงการติดตามโควิด

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วสหรัฐ อย่างเป็นทางการอยู่ที่มากกว่า 17,149,231 รายในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ห่างกันเพียง 5 วันหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งผ่าน 16 ล้านราย แต่บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวว่า จำนวนที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อ บางทีอาจสูงกว่านี้หลายล้านคน