รมว.ศธ.ชู 1 รร.1 กีฬาเพิ่มเวลาออกกำลังกาย

2020-12-17 18:00:17

รมว.ศธ.ชู 1 รร.1 กีฬาเพิ่มเวลาออกกำลังกาย

Advertisement

รมว.ศธ.ควงโฆษก พปชร. เปิดงานฟุตบอลกระชับมิตรศิษย์เก่านักบอลวัดสุทธิวราราม ชู 1 รร. 1 กีฬา เพิ่มเวลาออกกำลังกาย  ปลูกฝัง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย พร้อมพัฒนา รร.คุณภาพประจำชุมชน ครูครบชั้น ครบวิชา

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายณัฏฐพล  ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดงานฟุตบอลกระชับมิตร โดยกลุ่มเรารักสาทร ร่วมกับชมรมศิษย์เก่านักบอลวัดสุทธิวรารามจัดขึ้น ที่สนามฟุตบอลราชมงคลกรุงเทพ โดยมี  น.ส.
พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมงานด้วย


รมว.ศึกษาธิการ ยังได้กล่าวถึง โครงการ 1 โรงเรียน  1 กีฬา ที่มุ่งหวังให้นักเรียนได้ใช้เวลา 1  ชม.ต่อวัน หรือ 5  ชม.ต่อสัปดาห์ ในโรงเรียนเพื่อเล่นกีฬา ที่ไม่เพียงได้ของเรื่องสุขภาพ แต่ยังได้รู้จักการรู้แพ้รู้ชนะ และรู้อภัย ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมหลักสูตรให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศ มีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าทางวิชาการ หรือช่วงเวลาการเรียนจะเสียไป ตนมั่นใจว่าการออกกำลังกายจะเป็นการส่งเสริมทักษะเด็กในหลายด้าน และถือว่าเป็นการพัฒนาการศึกษาด้านหนึ่งอีกด้วย นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการ ยังเตรียมที่จะสนับสนุนกีฬาในหลายประเภท ทั้ง ฟุตบอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ว่ายน้ำ โดยจะปรับให้มีสถานที่ และศูนย์ฝึกต่างๆ ในโรงเรียน ทั้งนี้ต้องหาโรงเรียนที่มีสถานที่และศักยภาพเพียงพอ รองรับการขยายตัวในประเภทกีฬาดังกล่าว ซึ่งจะเริ่มในปีการศึกษา 2564 ช่วงเดือน พ.ค.ก็จะเริ่มผลักดัน โดยงบประมาณปี 2565 ที่จะลงไปได้คำนึงถึงการลงทุนสนามกีฬา รวมถึงศูนย์กีฬาให้มากขึ้น วันนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างผลักดันเรื่องของการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ ประจำชุมชน โดยจะนำโรงเรียนที่อยู่ในชุมชน ในจังหวัดต่างๆมาพิจารณา แล้วสุดท้ายก็จะมีการควบรวมซึ่งจะเป็นการเพิ่มทรัพยากรครูให้มากขึ้นคือ  "ครูครบชั้น ครูครบวิชา"


ส่วนโรงเรียนวัดสุทธิวรารามจะเป็นโรงเรียนตัวอย่างหรือไม่นั้น นายณัฏฐพล  ระบุว่า ที่ตนมาวันนี้ เพราะต้องการจะหาโรงเรียนที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักกีฬา พร้อมกับได้รับความรู้ทางวิชาการ และเมื่อตนได้ไปดูที่พักและการโภชนาการ ก็เชื่อมั่นว่าจะเป็นโรงเรียนตัวอย่าง และเห็นถึงจุดเด่นของโรงเรียนวัดสุทธิวราราม คือตำนาน ที่มีความยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ไม่ได้มีพื้นที่หรือสนามกีฬาเป็นของตนเอง แต่สามารถผลิตนักกีฬาที่มีความสามารถได้ ก็ต้องขอชื่นชมผู้บริหารหลายปีที่ผ่านมา ที่สามารถต่อยอดความเข้มข้น และความเข้มแข็ง ของกีฬาฟุตบอล จึงเป็นตัวอย่างที่ดี




ส่วนปัญหาครูมีภาระร่วมเป็นผู้ตัดสินกีฬา จะกระทบต่อการเรียนการสอนหรือไม่นั้น นายณัฏฐพล ระบุ ตนพยายามที่จะลดภาระของครูทุกคน ไม่ใช่เฉพาะครูที่เป็นผู้ตัดสินกีฬา เพราะอยากให้มีเวลาอยู่กับเด็กมากขึ้น และมีเวลาส่วนตัวให้อยู่กับครอบครัว และทำกิจกรรมที่ตนเองชอบ ดังนั้นการตัดสินกีฬาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่หากว่าโรงเรียนมีครูครบถ้วน ครบทุกวิชา มีครูที่สามารถแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกันได้ ปัญหาเหล่านั้นก็จะไม่เกิด วันนี้ปัญหาเกิด เพราะว่าเรามีโรงเรียนจำนวนมาก ครูไม่เพียงพอในแต่ละโรงเรียน เลยทำให้ขาดแคลนทางด้านวิชาการและกิจกรรมต่างๆ ตนหวังว่าการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนประจำชุมชน จะทำให้ปัญหาเหล่านี้หายไป และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับคุณครูที่จะมาเป็นกำลังหลัก ผลักดันเรื่องการศึกษาให้กับเด็กต่อไป