"บิ๊กป้อม"ประชุม คกก.แห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ผลักดัน "ป่าแก่งกระจาน-เมืองโบราณศรีเทพ" เป็นมรดกโลก
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ครั้งที่ 2/2563 โดยมี นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรมเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่ประชุม ได้รับทราบ การเปิดประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่44 ที่จะจัดขึ้นในห้วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2564 โดยจะมีการขอขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ ของประเทศไทย ซึ่งได้มีการบรรจุในวาระการประชุมไว้ด้วยแล้ว ทั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เชิญสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) เข้าสำรวจพื้นที่ และให้คำแนะนำในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.2564 จากนั้นได้รับทราบ ผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่43 (พ.ศ.2562) ให้ประเทศไทยส่งเอกสารรายงานสถานภาพ การอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา รวมถึงได้รับทราบรายงานการจัดกิจกรรม โดยมีผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต รัฐภาคีสมาชิก ในคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมด 8 ประเทศ ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และแก่งกระจาน ซึ่งมีความเห็นโดยสรุปของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่มีความพึงพอใจระดับดีขึ้นไป มากกว่าร้อยละ 85
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่ การดำเนินงานการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูง จ.พระนครอยุธยาโดยมีมติมอบให้กระทรวงคมนาคม ทำการศึกษา และรายงานผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก(HIA) และผลกระทบต่อคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากล(OUV) พร้อมทั้งให้มีการประสานงานร่วมกับกรมศิลปากร และ กระทรวงการต่างประเทศอย่างใกล้ชิด. รวมทั้งเห็นชอบให้จัดทำร่างเอกสาร การนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองโบราณศรีเทพให้เป็นมรดกโลก ของประเทศไทย เพิ่มอีกหนึ่งแห่งด้วย
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ ทส.ให้ประสานงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการต่าประเทศ และกรมศิลปากรในการดำเนินงาน เพื่อผลักดันการขอขึ้นทะเบียน กลุ่มป่าแก่งกระจาน และเมืองโบราณศรีเทพ ให้เป็นมรดกโลกให้ได้ ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ พร้อมเน้นย้ำกระทรวงคมนาคมเรื่องการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง จ.พระนครศรีอยุธยา จะต้องศึกษาอย่างจริงจัง เร่งด่วน และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต่อแหล่งมรดกโลกโดยเด็ดขาด