ร้อง ผบ.ตร.เอาผิด"คนโกง"โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

2020-12-16 11:50:51

ร้อง ผบ.ตร.เอาผิด"คนโกง"โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

Advertisement

"ผู้ว่า ททท." ยื่นเรื่องร้องเรียน "ผบ.ตร." ให้สอบสวนเอาผิด "คนโกง" โครงการเราเที่ยวด้วยกัน


เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. จากกรณี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. แถลงข่าวหลังตรวจสอบพบผู้กระทำผิดในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยพบว่ามีโรงแรมและร้านค้าจำนวนมากทำกันเป็นกระบวนการ ล่าสุด นายยุทธศักดิ์ ได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบกรณีพบผู้กระทำผิดในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยมี พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับเรื่อง


โดย นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า กรณีที่พบว่าเข้าข่ายทุจริตในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทั้งผู้ประกอบการโรงแรม และร้านค้าที่รับชำระผ่านคูปองใช้จ่าย ประกอบด้วย 1.การเข้าเช็กอินในโรงแรมราคาถูกแต่ไม่ได้มีการเข้าพักจริง ซึ่งจะได้ประโยชน์ในการใช้สิทธิคูปองใช้จ่ายวันธรรมดา 900 บาท วันเสาร์-อาทิตย์ 600 บาท 2.โรงแรมขึ้นราคาค่าห้องพักโดยร่วมมือกับร้านอาหารหรือร้านค้าที่รับชำระคูปอง ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นการซื้อขายสิทธิการใช้ห้องพักแต่ไม่ได้เกิดการเดินทางจริง ส่วนสาเหตุที่ก่อให้เกิดการทุจริตดังกล่าว เป็นเพราะที่ผ่านมามีการปลดล็อกเงื่อนไขให้สามารถใช้สิทธิเดินทางท่องเที่ยวได้ในภูมิลำเนาของตนเอง โดยเป็นการกระทำในแบบผู้ได้สิทธิร่วมมือกับโรงแรม ซึ่งจะมีการส่งเลขบัตรประชาชน 4 หลักสุดท้าย และเบอร์โทรศัพท์ ก็สามารถใช้รับรหัส OTP ยืนยัน ถือเป็นการโอนสิทธิได้ และ 3.โรงแรมที่ยังไม่กลับมาเปิดตามปกติ แต่มีการขายห้องพักเหมือนกลับมาเปิดเป็นปกติแล้ว ซึ่งกรณีนี้มีการตรวจพบทั้งการจองผ่านโรงแรมโดยตรง และการจองผ่านช่องทางตัวแทนออนไลน์ด้วย


4.เป็นการเติมเงินเพื่อรับส่วนต่าง 40 เปอร์เซ็นต์ในการสนับสนุนค่าห้องพักจากรัฐบาล โดยจะเห็นว่ามีการใช้สิทธิห้องพักเต็มจำนวนแบบผิดปกติ 5.มีการเข้าพักจริงแต่เป็นการเข้าพักแบบเป็นกรุ๊ปเหมาแล้วตั้งราคาห้องพักในราคาสูง จึงสามารถรับเงินส่วนต่างที่ตกลงกันไว้ได้ ถือเป็นการร่วมมือกันระหว่างโรงแรมกับผู้เข้าพัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกรณีที่จองตรงกับโรงแรม และ 6.โรงแรมที่เปิดขายห้องพักเกินจำนวนห้องพักจริงที่มี อาทิ มีห้องพักจริง 100 ห้อง แต่เปิดขาย 300 ห้อง ซึ่งจำนวนห้องที่เกินมาจะนำไปขายต่อให้กับโรงแรมอื่นเพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง สำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่สามารถประเมินได้ เพราะต้องตรวจสอบจำนวนห้องพักที่มีความผิดปกติต่อไป โดยขณะนี้มีโรงแรมที่เข้าข่ายต้องสงสัย 312 แห่ง จาก 8,000 แห่ง และร้านอาหารต้องสงสัย 200 แห่ง จาก 65,000 แห่ง พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะกระทำการทุจริตขอให้หยุดการกระทำ เพราะอาจเสียสิทธิดีๆ จากโครงการของรัฐบาล อีกทั้งยังจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปด้วย


ด้าน พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า จะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเสนอถึง ผบ.ตร. เพื่อให้ตั้งคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีพบการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยหากตรวจพบว่ามีผู้กระทำผิดจริง ก็จะดำเนินคดีไปตามกฎหมายอย่างแน่นอน