ยึดยาเคกว่า 300 กก.ก่อนขยายผลยึดเฮโรอีนอีก 228 กก.

2020-12-16 08:38:37

ยึดยาเคกว่า 300 กก.ก่อนขยายผลยึดเฮโรอีนอีก 228 กก.

Advertisement

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยึดยาเคกว่า 300 กก. ในโกดัง จ.นนทบุรี ก่อนขยายผลยึดเฮโรอีน 228 กก. ย่านห้วยขวาง

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.​ นำกำลังตำรวจ บช.ปส. เข้าตรวจค้นโกดังเลขที่ 57/7 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ภายหลังได้รับการประสานข้อมูลจากหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของไต้หวันว่ามีผู้นำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ในโกดังดังกล่าว และเตรียมจะส่งออกทางเรือไปยังไต้หวัน

พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ขยายผลจากเครือข่ายลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยปราบปรามยาเสพติดไต้หวัน (CIB) ประสานข้อมูลกัน จากการตรวจค้นโกดังแห่งนี้ พบถุงกระสอบบรรจุแป้งมัน น้ำหนักต่อถุงประมาณ 850 กก. จำนวน 39 ถุง จึงเปิดกระสอบเพื่อตรวจสอบ พบยาเคตามีน น้ำหนักมากกว่า 300 กก. ซุกซ่อนไว้ในถุงแป้งมันดังกล่าว โดยคาดว่ายาเคตามีน เตรียมไว้เพื่อรอการส่งออกไปยังไต้หวัน ส่วนนายทุน และเครือข่าย ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล ทั้งนี้ยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย คือ น.ส.เสาวภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี สอบสวน น.ส.เสาวภา ให้การภาคเสธโดยอ้างว่า ตนเองมีหน้าที่ดูแลการบรรจุและขนส่ง ทำเป็นครั้งแรก แต่ให้ข้อมูลว่านายท็อป เป็นผู้มอบหมายให้ดูแลยาเสพติด เพื่อเตรียมขนส่งทางเรือออกนอกประเทศ โดยนำยาเคตามีน ใส่กล่องมาส่งที่โกดัง และแยกใส่ถุงแป้งมันเพื่ออำพรางการถูกจับกุม เบื้องต้น ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภทที่ 2 (เคตามีน) โดยผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื่อว่า มีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดลักลอบนำเคตามีนที่บรรจุใส่ในกล่องชามาส่งที่โกดังแห่งนี้ จากนั้น ได้นำเคตามีนออกจากกล่องและเทใส่ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ แล้วนำใส่รวมในถุงแบ๊คโฮขนาดใหญ่ โดยใช้แป้งมันปิดกลบเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

ต่อมา เวลา 01.00 น.วันที่ 16 ธ.ค. พล.ต.อ.มนู รอง ผบ.ตร. พร้อมกำลังตำรวจ บช.ปส. และ สน.ห้วยขวาง ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 289 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. ภายหลังได้รับข้อมูลว่าน.ส.เสาวภา ผู้ต้องหา ได้เช่าไว้เป็นสถานที่ซุกซ่อนยาเสพติด 

เมื่อมาถึงพบว่าบ้านหลังกล่าวลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ความสูง 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา จากการตรวจค้นในห้องนอนชั้นที่ 1 พบเฮโรอีนอัดแท่งบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสภาพพร้อมส่ง จำนวน 600 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 228 กก. เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง


พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า หลังจากตำรวจจับกุม น.ส.เสาวภา ก็ได้ขยายผลจนพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพบ้านหลังหนึ่ง ต้องสงสัยว่าซุกซ่อนยาเสพติดไว้ ผู้บังคับบัญชาจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบเฮโรอีนของกลางดังกล่าว สังเกตภายในห้องที่พบยาเสพติดมีถุงลักษณะกระสอบปุ๋ยสำหรับขนย้ายข้ามแดน จึงคาดว่าบ้านหลังนี้เป็นสถานที่พักยาเสพติด และเป็นที่บรรจุ เพื่อเตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ ดูจากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ทั้งสองแห่ง คาดว่าเป็นยาเสพติดผ่านเข้ามาทางชายแดนทางภาคเหนือ

ทั้งนี้ ในขณะเข้าตรวจค้น ตำรวจได้นำตัว น.ส.เสาวภา มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยน.ส.เสาวภา ให้การอ้างว่า ตนเองใช้ชื่อเป็นผู้เช่าบ้านหลังนี้จริง แต่มีนายท็อป (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)​ ซึ่งเป็นคนรู้จักเป็นคนจ่ายค่าเช่าให้ โดยนายท็อป เป็นผู้นำยาเสพติดมาพักที่บ้านนี้ และให้ตนเป็นคนแพ็คบรรจุยาเสพติด ได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท ทำมาลักษณะนี้มานาน 1 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยบรรจุไอซ์มาแล้ว 1 ตันด้วยตัวคนเดียว เมื่อ 3 วันก่อน นายท็อปก็มาที่บ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปที่ใด ทราบเพียงปกตินายท็อปอาศัยอยู่ย่านประชาชื่น

พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า ขอฝากไปถึงผู้ที่ที่ธุรกิจให้เช่าบ้าน คอยสังเกตพฤติกรรมผู้เช่า หากพบสิ่งผิดปกติต้องสงสัยขอให้แจ้งตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดมักเช่าบ้านเป็นที่พักยาเสพติด แล้วย้ายไปเรื่อยๆ จึงยากต่อการตรวจสอบและติดตามตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ได้ความว่า น.ส.เสาวภา เพิ่งเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ 1 เดือน ค่าเช่าประมาณ 25,000 บาท ตอนที่ย้ายมามีการขนของค่อนข้างมาก จนกระทั่ง มาถูกตำรวจจับกุม