พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่ม "ผู้กองเหน่ง" ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ "ผอ.อ้อย"
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ “ผอ.อ้อย” อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายสาบสูญไปหลายเดือนจนพบชิ้นส่วนที่ จ.อุบลราชธานี และผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันเป็น ผอ.อ้อย โดยคดีนี้ ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ “ผู้กองเหน่ง” ผบ.ร้อย112 ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ตกผู้ต้องหาหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น ลักทรัพย์หรือรับของโจร ปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และนำไปซึ่งเอกสารของผู้อื่น เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบลายเซ็น ผอ.อ้อย ในเอกสารซื้อ-ขายรถ ไม่ตรงกับที่เคยเซ็นก่อนหน้านี้ และช่วงหายตัวไป ผอ.อ้อย ไปทำธุระกับผู้กองเหน่ง
ล่าสุด ในวันนี้ ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดศรีษะเกษ นายทหารพระธรรมนูญ กรมทหารราบที่ 6 ได้ควบคุมตัวผู้กองเหน่ง มามอบตัวกับ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ โดยมีพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พี่สาวและญาติของ ผอ.อ้อย กว่า 10 คน ได้มารอดูหน้าผู้กองเหน่ง โดยต้องการให้รับกรรมที่ก่อ บอกเป็นลูกผู้ชายทำผิดต้องยอมรับ ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำเสร็จแล้ว จะนำตัวผู้กองเหน่ง ไปที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ พร้อมขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง
พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวว่า ผู้กองเหน่งได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาล ซึ่งตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน แต่ก็ต้องรวบรวมให้ครบถ้วนและรอบคอบ คงสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการได้เร็วๆ นี้
ล่าสุดศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และมีอัตราโทษรุนแรง เกรงว่าจะหลบหนี