สธ.ชี้ "บิ๊กเมาน์เทน" เสี่ยงมากกว่าสนามมวยลุมพินี 10 เท่า ยันไม่ห้ามจัดงานเทศกาลปีใหม่ แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง จัดสถานที่ลดความเสี่ยงการเกิดโรคให้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงการระงับเทศศกาลดนตรี บิ๊กเมาน์เทน ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อให้เป็นอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการสั่งปิด ทั้งนี้ตอนอนุญาตจัดนั้นเป็นอำนาจของนายอำเภอ กับเทศบาล แต่ที่สั่งปิดเพราะไม่ทำตามมาตรการและไม่แก้ไข ซึ่งเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อถามว่ามีการแชร์ข้อความพร้อมภาพโดยตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดงานดนตรีอื่นๆ จึงสามารถจัดได้ นพ.โอกาส กล่าวว่า การจัดกิจกรรม ขอย้ำว่าทำได้ ตัวอย่างดีๆ ก็มี จริงๆ ตัวอย่างที่ทำดีๆ ทำได้ เราสนับสนุนให้ทำด้วย แต่กรณีถูกดังกล่าวทาง ผวจ.นครราชสีมาเห็นว่าคนแออัดเยอะมาก สแกนไทยชนะวันนั้นวันเดียวก็ 3 หมื่นคน แล้วเมื่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ลงไปตรวจสอบ ขอให้แก้ไขก็บอกว่าแก้ไม่ได้ จะเห็นว่าครบถ้วนคือ 1. แก้ปัญหาไม่ได้ 2. คนแออัดอย่างนี้ความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคเป็นไปได้อย่างสูง นึกภาพว่าหากมีการกระจายไป ซึ่งคนร่วมงานมาจากทั่วประเทศ แล้วกลับไปทั่วประเทศ อันนี้ยิ่งกว่า สนามมวยลุมพินี 10 เท่า แล้วสนามมวยลุมพินีคนก็หลักพันถึงหมื่น ส่วนอันนี้คนร่วมงาน 4-5 หมื่น คิดดูว่าจะกระจายกันขนาดไหน หากไม่ป้องกันไว้ก่อน ถ้าเกิดเหตุขึ้นมาป้องกันไม่ทันแน่นอน
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขอยืนยันว่าในตอนนี้ประเทศไทยไม่มีพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ระบาดโควิด-19 แม้แต่พื้นที่เดียว ดังนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่ยังสามารถจัดกิจกรรม คอนเสิร์ตได้ตามปกติ แต่ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องจากฝ่ายปกครอง ในเรื่องของการใช้เสียง ใช้ลำโพง รวมถึงมีแผนการควบคุมป้องกันโรคที่กำหนดไว้ควบคู่กันไป เช่น ที่มีการเน้นย้ำหลายครั้งว่าการจัดงานประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งคือผู้จัดงานจะต้องพยายามจัดในสถานที่ที่ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคให้มากที่สุด เช่น 1.การเว้นระยะห่างไม่ให้มีการอัด 2. ต้องคัดกรองผู้เข้างานอย่างเป็นระเบียบและตรวจวัดอุณหภูมิ 3. จะต้องทำความสะอาดพื้นผิวสาธารณะ เช่นห้องน้ำ และอื่นๆ 4. จะต้องมีจุดล้างมือและเจลแอลกอฮอล์ และ 5. ประการสำคัญคือจะต้องมีผู้กำกับแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่มีการจัดงาน ส่วนที่ 2 คือประชาชนไปร่วมงานให้สนุกก็ต้องป้องกันตัวเองโดยการสวมหน้ากากอนามัยให้ครบถ้วน ถอดในเวลาจำเป็นจริงๆ เช่น การรับประทานอาหาร การดื่มน้ำ ต้องสแกน Application ไทยชนะทุกครั้ง เพื่อให้ติดตามและแจ้งข่าวสารกับผู้ร่วมกิจกรรมนั้นๆ ได้อย่างสะดวก โดยตรงเพื่อให้ทราบถึงวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องไม่ให้เกิดความสับสน ที่สำคัญคือหลังร่วมกิจกรรมอะไรก็ตามหากกลับไปแล้วมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้ไปพบแพทย์และแจ้งสถานที่แจ้งที่ท่านไป และส่วนที่ 3 ขอย้ำว่าที่สำคัญคือทางผู้จัดงาน ประชาชน เจ้าหน้าที่ดูแล และเมื่อฝ่ายปกครองร่วมมือการตรวจสอบว่าที่จัดนั้นมีความเหมาะสมถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้จัดปรับปรุงแก้ไข