"บิ๊กป้อม"ประชุมขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จชต.3 เดือน

2020-12-14 12:21:51

"บิ๊กป้อม"ประชุมขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จชต.3 เดือน

Advertisement

"บิ๊กป้อม"ประชุมติดตามสถานการณ์ 3 จชต. มีมติขยายเวลาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 เดือน ขอบคุณ ปชช.ให้ความร่วมมือ ให้กำลังใจ จนท.ปฏิบัติงาน

เมื่อ 14 ธ.ค. พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ครั้งที่ 4/2563 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สมช. ทำเนียบรัฐบาล ที่ประชุม ได้รับทราบผลการปฏิบัติงาน ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ห้วงวันที่ 20 ก.ย.-12 พ.ย.2563 ซึ่งภาพรวมมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เหตุการณ์การก่อเหตุร้าย มีแนวโน้มลดลง อย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแล ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งมีความเข้าใจในความจำเป็นของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยได้ให้การสนับสนุน และให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามจากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าว พบว่าผู้ก่อเหตุความรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการและยังมีสิ่งบอกเหตุ ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในรูปแบบต่างๆในพื้นที่ จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังได้รับทราบเรื่องที่ กอ.รมน. ภาค4 จะดำเนินการ จัดทำแผน การปรับลดพื้นที่ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ (จชต.)  รวมถึงการส่งเสริม ให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ด้วย

คณะกรรมการฯ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ตามที่ กอ.รมน. ภาค 4 เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในพื้นที่ 3 จชต. ยกเว้น อ.แม่ลาน  อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี  อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก อ.สุคิริน  อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ธ.ค.2563 ถึง 19 มี.ค.2564 (ครั้งที่ 62) เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จชต.ให้มีความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการ กอ.รมน. และ สมช.ให้ร่วมกันจัดทำแผนการปรับลดพื้นที่ควบคุม เพื่อเตรียมรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมกำชับ การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จะต้องให้สอดคล้อง กับความต้องการของประชาชน อย่างแท้จริง และเน้นย้ำ สตช. และขอให้อัยการสูงสุด เร่งจัดตั้งสำนักงานคดีความมั่นคง ภาค9 และให้มีการบังคับใช้กม. อย่างเคร่งครัด เป็นธรรม รวดเร็ว เพื่อเป็นการป้องกัน ป้องปราม ไม่ให้มีการก่อเหตุร้าย และ ช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้เข้มงวดมาตรการป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่มีความเข้าใจถึงความจำเป็นในการทำงานและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยดี พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ทุ่มเท เสียสละ การปฏิบัติงานได้อย่างดียิ่ง ให้สามารถบรรลุภารกิจ และมีความปลอดภัย กันทุกคน