ผู้ประท้วง ที่อ้างตัวว่าเป็นนักรบชาวเคิร์ด บุกอาคารรัฐสภาชาวเคิร์ด แสดงความไม่พอใจกรณีนายมาซูด บาร์ซานี ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจัดการแสดงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากอิรักล้มเหลว
กล่มผู้ประท้วง ซึ่งบางคนถือกระบอง บุกจู่โจมอาคารรัฐสภาชาวเคิร์ดในเมืองเออร์บิล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของชาวเคิร์ดในอิรักเมื่อวานนี้ (อาทิตย์) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของนายมาซูด บาร์ซานี ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ด โดยมีเสียงปืนดังขึ้นด้วยขณะผู้ประท้วง ที่อ้างว่าเป็นนักรบชาวเคิร์ด "เปชเมอร์กา" บุกเข้าไปในอาคาร
ก่อนหน้านี้นายบาร์ซานี ผู้นำเคิร์ดในอิรัก ส่งจดหมายแจ้งต่อรัฐสภาว่า เขาจะสละตำแหน่งประธานาธิบดี มีผลบังคับในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ หลังจากการแสดงประชามติแยกตัวเอกราช ซึ่งเขาเป็นตัวตั้งตัวตีจนจุดชนวนให้เกิดวิกฤติความขัดแย้งในเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ด
จากนั้น รัฐสภาเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดก็ประชุมกันในเมืองเออร์บิล เพื่อหารือเกี่ยวกับหนังสือลาออกของนายบาร์ซานี ซึ่ง ส.ส.ชาวเคิร์ดส่วนใหญ่ 70 คน ลงมติยอมรับ มีเพียง 23 คนเท่านั้นที่คัดค้านการลาออกของผู้นำชาวเคิร์ดรายนี้
ทั้งนี้ ชาวเคิร์ดลงมติด้วยคะแนนท่วมท้นสนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา แต่แทบไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากภายนอก โดยรัฐบาลอิรักมองว่า การแสดงประชามติดังกล่าว ผิดกฎหมาย และส่งกำลังทหารบุกยึดเมืองเคอร์คุก เมืองที่ชาวเคิร์ดพิจารณาว่าจะใช้เป็นที่ตั้งรัฐเอกราชในอนาคต เช่นเดียวกับรัฐบาลอิหร่านและตุรกี ก็ให้คำมั่นด้วยว่าจะกวาดล้างขบวนการแบ่งแยกดินแดนภายในภูมิภาคชาวเคิร์ด ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนชาวเคิร์ดว่า การจัดแสดงประชามติในพื้นที่พิพาท เป็นการยั่วยุและทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ
การสูญเสียเมืองเคอร์คุก ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งเลวร้ายสำหรับนายบาร์ซานี และกระตุ้นให้ฝ่ายค้านออกมาเรียกร้องให้เขาลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี