จัดเวทีสาธารณะขับเคลื่อนเพชรบุรีสู่จังหวัดจัดการขยะอย่างปลอดภัย

2020-12-12 20:25:58

จัดเวทีสาธารณะขับเคลื่อนเพชรบุรีสู่จังหวัดจัดการขยะอย่างปลอดภัย

Advertisement

มูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมกับเครือข่ายคนรักษ์บ้านเกิด ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จัดเวทีสาธารณะเรื่องการขับเคลื่อนเพชรบุรี สู่ จังหวัดจัดการขยะอย่างปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่ดี

มูลนิธิบูรณะนิเวศ ร่วมกับเครือข่ายคนรักษ์บ้านเกิด ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี  จัดเวทีสาธารณะเรื่องการขับเคลื่อนเพชรบุรี สู่จังหวัดจัดการขยะอย่างปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเวทีสาธารณะได้จัดขึ้นที่ศาลาการเปรียญของวัดเขาทะโมน ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี กิจกรรมได้เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.ไปจนถึงเวลา 12.00 น. มีชาวบ้านจากหมู่บ้านใน ต.ท่าเสน และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งชาวบ้านจากอำเภอที่กำลังมีปัญหาเรื่องขยะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมประชาสัมพันธ์ ฝ่ายปกครอง สื่อมวลชน เข้าร่วมเสวนา กว่า 200 คน นำโดย น.ส.เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ น.ส.วจีพร เพชรสุก แกนนำเครือข่าย พร้อมด้วยตัวแทนชุมชนจากหลายพื้นที่ ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นพร้อมเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการต่อสู้กับการจะเกิดขึ้นของโรงงานกำจัดขยะ

น.ส.เพ็ญโฉม  กล่าวว่า การจัดเวทีสาธารณะขึ้นครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากทางมูลนิธิได้รับการติดต่อจากชาวบ้าน ทั้งจากพื้นที่อำเภอเขาย้อยและพื้นที่ตำบลท่าเสน อำเภอบ้านลาด ให้เข้ามาช่วยสำรวจสภาพแวดล้อม จากการสำรวจพบว่า กรณีที่ต.ชุมพล อ.เขาย้อย จะมีโรงงานรีไซเคิลขยะแล้ว และมีแนวโน้มจะมีการนำเอาขยะเข้ามาอีก และก็มีบางพื้นที่ ที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโรงงานคัดแยกและกำจัดขยะ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม มีสิ่งปนเปื้อนในน้ำ และยังมีพบว่ามีการลักลอบนำขยะอุตสาหกรรมมาฝังกลบในพื้นที่ ได้มีการแนะนำชาวบ้านควรดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหา ในส่วนของมูลนิธิก็มีการเก็บตัวอย่างไปตรวจด้วย ก็พบว่าขยะที่นำมาฝังกลบในพื้นที่ต.หนองชุมพลเป็นขยะอันตรายแน่นอน ซึ่งทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องทำการสืบสวนสอบสวนหาโรงงานที่เป็นเจ้าของขยะเหล่านั้น และเอาผิดกับผู้กระทำผิดเหล่านั้น ถือว่าทำผิดกฎหมายที่ร้ายแรงควรจะนำ พรบ.วัตถุอันตรายเข้ามาใช้ในเรื่องนี้ 

ในส่วนของต.ท่านเสน อ.บ้านลาด ที่ได้มาจัดเวทีสาธารณะขึ้นครั้งนี้ ทางมูลนิธิได้รับการติดต่อจากชาวบ้านเช่นกัน ซึ่งชาวบ้านมีการห่วงกังวลเรื่องที่จะมีการสร้างโรงงานไฟฟ้าจากขยะในพื้นที่ ซึ่งจากที่ทางมูลนิธิได้ติดตามเรื่องโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ นั้น มีหลายประเทศพยายามควบคุมโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ ในประเทศไทยก็มีการคัดค้านการตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะอยู่หลายพื้นที่เช่นกัน เหตุผลที่คัดค้านเนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องมลพิษที่จะเกิดจากโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะ ทั้งฝุ่น อากาศ และขี้เถ้า ที่จะมีการปนเปื้อนจากโลหะหนัก เช่นสารหนู แคตเมี่ยม ตะกั่ว เป็นต้น โดยเฉพาะกลุ่มสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็ง 


อย่างไรก็ตามถามว่าถ้าไม่สร้างโรงงานไฟฟ้าจากขยะแล้วจะกำจัดขยะได้อย่างไร เบื้องต้นต้องรณรงค์ให้คนช่วยคัดแยกขยะก่อนทิ้งให้ได้มากที่สุด ถ้าจำเป็นต้องมีตั้งโรงงานกำจัดขยะขึ้นก็ต้องมีมาตรการควบคุมและการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก 

น.ส.เพ็ญโฉม ยังกล่าวช่วงบรรยายพิเศษอีกว่า ปัญหาจากขยะ และทราบมาว่ามีประเทศมากกว่า 80ประเทศ ที่นำขยะมาทิ้งในประเทศไทย โดยในส่วนปัญหาเกี่ยวกับขยะใน จ.เพชรบุรีนั้น มูลนิธิได้รับการประสานจาก กลุ่มประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย กรณี การลักลอบทิ้งขยะกากอุตสาหกรรม และ ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย กรณี โรงงานคัดแยกและรีไซเคิลพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมกรณีโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด และ ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง โดยมูลนิธิได้เริ่มเข้าสำรวจตั้งแต่ปี 61 และลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 63 แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องหยุดการสำรวจ

จากการสำรวจในพื้นที่ สำหรับ ต.หนองชุมพล พบว่ามีการลักลอบฝังและลอบทิ้งกากอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ของเอกชนหรือป่าละเมาะรวม 6 จุด จากผลวิเคราะห์ของ สนง.สิ่งแวดล้อมภาคที่ 8 (ราชบุรี) กรมควบคุมมลพิษ และอุตสาหกรรม จ.เพชรบุรี พบสารที่เป็นอันตราย อาทิ ทองแดง อะลูมิเนียม กลิ่นเหม็นคล้ายแอมโมเนีย โครเมียม ตะกั่ว และสารหนู

นอกจากนี้ ในพื้นที่ยังมีปัญหาจากอุตสาหกรรมรีไซเคิลกากอิเล็กทรอนิกส์บริเวณรอบโรงงานหวินจี (ประเทศไทย) ซึ่งได้มีการใช้โดรนบินบันทึกภาพ และพบว่ามีการทิ้งน้ำเสียภายในโรงงาน ซึ่งมูลนิธิเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมส่วนราชการถึงไม่เข้ามาดำเนินการตรวจสอบ รวมถึงกรณีคัดค้านโรงงานคัดแยกขยะและรีไซเคิล บริษัท ซีเอ็มพี กรีน เทคโนโลยี จำกัด ต.หนองชุมพลเหนือ อ.เขาย้อย ที่โรงงานยังคงขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีการคัดค้าน

สำหรับ โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด น.ส.เพ็ญโฉม ได้ยกตัวอย่างข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและชีวิตของประชาชนหากมีการสร้างโรงไฟฟ้าฯ อาทิ มลพิษทางอากาศ สารไดออกซิน โลหะหนัก สารอินทรีย์ และกลุ่มก๊าซที่มีฤทธิ์เป็นกรด และจากการสำรวจของมูลนิธิพบว่า จ.เพชรบุรี เป็นทำเลทองของนายทุนชาวจีน ที่จะเข้ามาประกอบกิจการคัดแยกขยะ เนื่องจากพบว่ามีโรงงานในลักษณะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก


ด้าน น.ส.วจีพร เพชรสุกเครือข่ายคนรักษ์บ้านเกิด ต.ท่าเสน กล่าวถึงสาเหตุของกาจัดประชุมในครั้งนี้เนื่องจากมีผู้หลักผู้ใหญ่ในท้องถิ่นบางคน เข้ามาหาพี่ชายของตน และกล่าวว่าจะมีการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังขยะ ขอให้ประชาชนในพื้นที่อย่าออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าโรงงานจะมีผลตอบแทนให้หมู่บ้านละ 50,000 บาท เมื่อตนทราบข่าวจึงได้นำไปปรึกษาพระอธิการดำหริห์ ธัมมรังษี เจ้าอาวาสวัดเขาทะโมนและ น.ส.เพ็ญโฉม ว่าควรทำอย่างไรดี จากนั้นจึงได้ให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนบรรยายเกี่ยวกับความเป็นมาของการคัดค้านการสร้างโรงงาน ถึงแม้จะไปยื่นหนังสือถึงส่วนราชการ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด

พระอธิการดำหริห์ ธัมมรังษี เจ้าอาวาสวัดเขาทะโมน กล่าวว่า ขอขอบคุณมูลนิธิบูรณะนิเวศ ที่จัดประชุมให้ความรู้ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นที่ทราบว่าจะมีกานสร้างโรงไฟฟ้าขยะ และประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีโรงไฟฟ้าขยะ เนื่องจากส่งผลกระทลต่อประชาชนผู้อยู่อาศัยในบริเวณพื้นที่บ่อขยะ โดยเฉพาะควัน และสารพิษต่างๆ ที่มาจากการเผาไหม้ของบ่อขยะซึ่งจะทำอันตรายต่อชีวิต

สำหรับการจะสร้างโรงงานไฟฟ้าจากขยะในพื้นที่ ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด แห่งนี้ ได้ถูกชาวบ้านต่อต้านเรียกร้องให้ยุติโครงการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดชาวบ้านรู้สึกว่าเหมือนจะมีการขับเคลื่อนตั้งโรงไฟฟ้าจากขยะขึ้นมาอีก จึงได้ขับเคลื่อนเรียกร้องไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อให้มีการยุติไม่สร้างโรงผลิตไฟฟ้าจากขยะในพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดชุมชน สถานศึกษาและวัด.