สุดเศร้า จนท.อุทยานถูกช้างเหยียบดับ

2020-12-11 18:50:18

สุดเศร้า จนท.อุทยานถูกช้างเหยียบดับ

Advertisement

สุดเศร้า จนท.อุทยานพลาดท่าถูกช้างกุยบุรีเหยียบเสียชีวิต


จากที่มีชาวไร่พบช้างป่าลักษณะคล้ายบาดเจ็บออกมายืนหากินอยู่ริมถนนชายป่าใกล้ไร่มะม่วงของชาวบ้าน หมู่ที่ 4 บ้านท่าวังหิน ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.63 ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีและสัตวแพทย์สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ เข้าตรวจสอบเป็นช้างป่าเพศผู้ อายุประมาณ 20 - 25 ปี น้ำหนักประมาณ 3,000 กิโลกรัม มีอาการบาดเจ็บที่ขาพับในข้างขวาและขาขวามีอาการบวม ลักษณะการเดินของช้างจะเดินแบบขาลากไปกับพื้น แต่ไม่ใครกล้าเข้าใกล้ จึงใช้วิธีรักษาโดยนำยาเม็ดแก้อักเสบ ลดปวด ลดบวม ยัดใส่ไว้ในผลไม้ แล้วนำไปวางยังบริเวณที่ช้างอยู่ซึ่งช้างได้ออกมากินผลไม้ที่ใส่ยาไว้จนหมด โดย นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้สั่งการให้ น.ส.สุพร พลพันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานเฝ้าติดตามอาการของช้างป่าอย่างใกล้ชิด โดยทีมสัตวแพทย์ได้จัดยาบรรเทาอาการบาดเจ็บเพื่อให้เจ้าหน้าที่ฯเอาให้ช้างกินและเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง 


ต่อมาวันที่ 11 ธ.ค. ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯเตรียมความพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือและให้การรักษาช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บ ได้รับรายงานทางวิทยุสื่อสารว่าช้างป่าที่ได้รับบาดเจ็บตัวดังกล่าววิ่งเข้าชาร์จใส่เจ้าหน้าที่ชุดติดตามอาการช้างป่าจนเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งหลบหนีกระเจิดกระเจิงคนละทิศละทางและผลัดหลงกันในป่าเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าหญ้าคา มีวัชพืชขึ้นสูงท่วมหัว ทำให้ไม่สามารถมองเห็นช้างป่าได้ชัดเจน ก่อนเจ้าหน้าที่ได้วิ่งลงมารวมกันที่ถนนชายป่า และพบว่ามีเจ้าหน้าที่สูญหายไป 1 คน คือ นายบุญชู โตเต็ม อายุ 55 ปี พนักงานราชการ ตำแหน่ง คนงาน เป็นเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่าชุดที่ 3 และหัวหน้าจุดสกัดท่ากระทุ่น จึงออกค้นหาสุดท้ายพบว่า นายบุญชู ได้ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ก่อนประสานมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน ปราณบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและนำศพส่งยัง รพ.ปราณบุรี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนร่วมงาน


นายพิชัย กล่าวว่านายบุญชูทำงานด้วยความเสียสละ ขยัน และเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะนี้ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเตรียมหลักฐานการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตเพื่อประกอบการขอรับเงินช่วยเหลือครอบครัวจากกองทุนหรือมูลนิธิต่อไป.