“จุรินทร์” ไม่เอาระบอบสาธารณรัฐ

2020-12-11 11:05:28

“จุรินทร์” ไม่เอาระบอบสาธารณรัฐ

Advertisement

“จุรินทร์” ไม่เอาระบอบสาธารณรัฐ ระบุทุกประเทศมีกฎหมายคุ้มครองประมุขประเทศ

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า  ตนและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยเรื่องการที่จะไปเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยเป็นระบอบสาธารณรัฐหรือคอมมิวนิสต์ เพราะเรามีจุดยืนชัดเจนว่าประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น คือสิ่งที่เป็นจุดยืนและเป็นสิ่งที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับชัดเจนต้องไม่ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆทั้งสิ้น  ต่อข้อถามถึงข้อเสนอยกเลิกมาตรา112  นายจุรินทร์ ตอบว่า ทุกประเทศในโลกก็จะต้องมีกฎหมายที่คุ้มครองประมุขของประเทศด้วยกันทั้งสิ้น โดยกฎหมายมาตรา 112 ก็เป็นมาตราหนึ่งสำหรับประเทศไทยที่คุ้มครองหรือปกป้องประมุขของประเทศไทยของเราเช่นเดียวกับทุกประเทศในโลก คือสิ่งที่อยากให้ทุกท่านได้เกิดความเข้าใจ

นายจุรินทร์ กล่าวถึงที่มา ส.ส.ร.200 คนที่มีคำถามว่าควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่ด้วยว่า อันนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่....) พ.ศ....ที่จะเป็นผู้กำหนดขณะนี้การแก้รัฐธรรมนูญผ่านการรับหลักการวาระที่หนึ่งแล้วและอยู่ในวาระที่สองคือขั้นแปรญัตติทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับกรรมาธิการที่จะเป็นผู้พิจารณาก่อนนำกลับมาพิจารณาในรัฐสภาใหญ่แล้วมีมติอย่างใดอย่างหนึ่งในวาระที่สามเรื่อง ส.ส.ร.นั้นเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าในจำนวนประมาณ 200 คน ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่ หรือมาจากการเลือกตั้งส่วนใหญ่แล้วมาจากการสรรหาบางส่วนซึ่งมีข้อดีข้อด้อยด้วยกันทั้ง 2 ส่วน ถ้ามาจากการเลือกตั้งทั้งหมดก็อาจจะอ้างได้ว่าประชาชนเป็นผู้เลือกมาแต่อาจมีจุดอ่อนได้ถ้าผลการเลือกตั้งที่ออกมากลายเป็นผู้ที่อิงอยู่กับพรรคการเมืองหรือในเส้นสายทางการเมืองได้รับเลือกตั้งมาจำนวนมาก สุดท้ายอาจจะกลายเป็นคล้ายกับสภาผัวสภาเมียเหมือนที่เกิดขึ้นในวุฒิสภากับสภาผู้แทนราษฎรในอดีตได้

"ไม่ได้แปลว่าผมจะมีความเห็นอย่างนั้นแต่มีข้อท้วงติงได้แต่ข้อดีคือสามารถอ้างได้ว่ามาจากการเลือกตั้งจากประชาชนแต่สำหรับรูปแบบผสมคือมาจากการเลือกตั้งส่วนใหญ่แต่ว่ามาจากการสรรหาอีกจำนวนหนึ่งเหมือนกับร่างของพรรคร่วมรัฐบาลคือให้มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน 150 คนและมาจากการสรรหา 50 คนในจำนวน 50 คนนั้นประกอบด้วยตัวแทนของสภาผู้แทนจำนวนหนึ่ง วุฒิสมาชิกตัวแทนของวุฒิสภาจำนวนหนึ่ง และอีก 20 คนมาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหาของที่ประชุมอธิการบดีหรือทางฝ่ายวิชาการและอีกจำนวนหนึ่งประมาณ 10 คนมาจากตัวแทนนักศึกษา จะช่วยให้เกิดความหลากหลายขึ้นเพราะบางครั้งการเลือกตั้งทั้งหมดนักศึกษาอาจจะไม่ติดสักคนก็ได้สุดท้ายก็จะไม่มีตัวแทน หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญทั่วโลกที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้อาจจะไม่ติดมาก็ได้สุดท้ายอาจกลายเป็นจุดอ่อน จุดดีคือสามารถที่จะช่วยให้มีความหลากหลายและมีการผสมผสาน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการที่จะเป็นผู้พิจารณา ผมเห็นด้วยที่จะต้องมี ส.ส.ร.ยกร่างขึ้นมาใหม่โดยไม่แตะหมวดหนึ่งหมวดสองเพราะถ้าไปแตะหมวดหนึ่งหมวดสองไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปเป็นสาธารณรัฐหรือคอมมิวนิสต์ก็ทำไม่ได้และไม่ควรทำ" นายจุรินทร์ กล่าว