อธิบดีกรมควบคุมโรคระบุสถานการณ์โรคโควิด 19 มาาก จ.ท่าขี้เหล็กสามารถควบคุมได้ จำนวนผู้ติดเชื้อ 46 รายเท่าเดิม
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยโควิด 19 จากจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา จำนวนผู้ป่วย 46 รายเท่าเดิม แสดงให้เห็นว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ที่สำคัญคือในจำนวนนี้ 27 รายเป็นการนำผู้เดินทางเข้าระบบกักกันโรค ทำให้ตรวจพบในสถานกักกันโรค และไม่เกิดการแพร่กระจายเชื้อ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น ตรวจตราการลักลอบเข้าเมือง และประสานไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หากมีคนไทยตกค้างจะนำกลับมาเข้าสู่ระบบกักกันโรค โดยที่ จ.เชียงรายซึ่งมีผู้อยู่ในสถานกักกันโรคจำนวนมาก วันนี้อาจจะมีรายงานเพิ่มเติมอีก 3 รายในสถานกักกันโรค ทาง จ.เชียงรายจะแถลงข่าวต่อไป ถือเป็นเรื่องดีทำให้ควบคุมโรคได้ ส่วนจังหวัดอื่นๆ เช่น เชียงใหม่ พะเยา กทม.พิจิตร ราชบุรี สิงห์บุรี เมื่อไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มครบ 14 วันก็จะถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า ความเสี่ยงของการติดเชื้อขึ้นอยู่กับการสัมผัสใกล้ชิดในสถานที่และเวลาเดียวกันกับผู้ป่วยโดยไม่สวมหน้ากาก ได้แก่ คนในครอบครัว อยู่บ้านเดียวกัน โดยคู่สมรสมีโอกาสติดเชื้อร้อยละ 40 - 50 บุตรร้อยละ 10 – 20, ผู้ที่ยืนพูดคุยกับผู้ป่วยระยะ 1 เมตรเกิน 5 นาที, ถูกผู้ป่วยจามใส่ และผู้ที่อยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกอากาศ เช่นในรถตู้ หรือห้องที่ปิดทึบเกิน 5 นาที เน้นย้ำมาตรการที่ดีที่สุดที่ประชาชนต้องช่วยกันคือการป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่สาธารณะให้มากที่สุด สำหรับกรณีผู้ปกครองพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและมีการปิดโรงเรียนนั้น ขอชี้แจงว่า การพบกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงถือว่าไม่มีความเสี่ยง จึงไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียน กรณีที่จะปิดโรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ จะปิดเมื่อพบผู้ติดเชื้อเท่านั้น และปิดเพื่อทำความสะอาดเท่านั้น