อสส.แจงไม่สั่งฟ้อง"สกุลธร"เหตุเพราะรอพยานหลักฐาน

2020-12-09 12:00:49

อสส.แจงไม่สั่งฟ้อง"สกุลธร"เหตุเพราะรอพยานหลักฐาน

Advertisement

อสส.แจงปมสั่งไม่ฟ้อง "สกุลธร" เหตุเพราะ ตร.ยังรวบรวมพยานหลักฐานไม่แล้วเสร็จ


เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. จากกรณีที่สังคมตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุที่อัยการสูงสุด ไม่ฟ้อง นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งเกี่ยวพันกับคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาโทษเจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และนายหน้าที่ดินรวม 2 นาย ฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารราชการปลอมเพื่อเตรียมปล่อยสิทธิการเช่าที่ดินระยะยาว 2 แปลงภายในซอยร่วมฤดี และบริเวณองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ย่านชิดลม มูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยนายสกุลธร ถูกซัดทอดว่ามีการจ่ายเงิน 20 ล้านบาทให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ได้รับสิทธิในการเช่า


เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะโฆษก แถลงชี้แจงว่า คดีนี้กองปราบปรามเป็นเจ้าของสำนวนคดี โดยรับสำนวนคำร้องมาจากตัวแทนสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นชื่อเดิม ณ ขณะนั้นเมื่อปี 2560 ว่ามีเจ้าหน้าที่และผู้ร่วมกระทำผิดปลอมแปลงและใช้เอกสารทางราชการปลอม ตำรวจจึงสืบสวนจับกุมดำเนินคดี ก่อนส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.พิจารณา เมื่อเดือน เม.ย.2562 จากนั้น ป.ป.ช.มอบอำนาจให้กองปราบ สอบสวนขยายผลต่อ ซึ่งตามท้ายรายงานที่ส่งให้อัยการพิจารณา ระบุว่า กรณีที่พบว่า นายสกุลธร มีการจ่ายเงินให้กับนายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช ซึ่งเป็นนายหน้าอิสระ 3 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อให้ประสานกับนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ช่วยเหลือเพื่อได้มาซึ่งสิทธิในการเช่าที่ดินระยะยาว จึงไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ซึ่งจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีแยกต่างหาก ทำให้สำนวนคดีแรกมีรายชื่อปรากฎผู้ต้องหาเพียง 2 คน ซึ่งเป็นการฟ้องข้อเท็จจริงในคดีนี้ และเนื่องจากตำรวจระบุชัดเจนว่าจะแยกดำเนินคดีเพิ่ม อัยการจึงไม่ได้เห็นแย้งในเรื่องนี้


อย่างไรก็ตามกรณีของ นายสกุลธร จนถึงขณะนี้ยังปรากฎข้อเท็จจริงตามคำให้การของนายสุรกิจ ซึ่งเป็นนายหน้าว่าได้มอบเงินให้ไปดำเนินการ แต่ในชั้นศาลยังไม่มีการพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไร จึงต้องรอให้ตำรวจกองปราบปราม สอบสวนสรุปสำนวนส่งฟ้องมาก่อน จึงจะพิจารณาต่อไปได้ว่าเข้าข่ายกระทำความผิดฐานเป็นผู้ให้สินบนหรือไม่