คุณยายอังกฤษวัย 90 ปีฉีดวัคซีนโควิดรายแรกของโลก

2020-12-09 07:05:09

คุณยายอังกฤษวัย 90 ปีฉีดวัคซีนโควิดรายแรกของโลก

Advertisement


คุณยายชาวเมืองผู้ดีอังกฤษวัย 90 ปี รับของขวัญชิ้นสำคัญที่สุดก่อนวันเกิดครบ 91 ปีในสัปดาห์หน้า เมื่อกลายเป็นคนแรกของโลกที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ในโครงการฉีดวัคซีนโควิดวันแรกของอังกฤษเมื่อวันอังคาร

คุณยายมาร์กาเรต คีแนน วัย 90 ปี กลายเป็นคนแรกของโลกที่ได้รับวัคซีคต้านโควิด-19 นอกการทดลองของไฟเซอร์ บริษัทยาชั้นนำของสหรัฐ ส่วนหนึ่งของโครงการฉีดวัคซีนหมู่ครั้งใหญ่ โดยเธอได้รับวัคซีนในช่วงเช้าวันอังคารที่ 8 ธันวาคม หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เธอจะอายุครบ 91 ปี ถือเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังเป็นวัคซีนโดสแรกในจำนวน 800,000 โดสของบริษัทไฟเซอร์ที่พัฒนาร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ซึ่งจะทยอยแจกจ่ายในสหราชอาณาจักรในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า จะมีประชาชนได้รับวัคซีนถึง 4 ล้านคนภายในสิ้นเดือนนี้



คุณยาย คีแนน ซึ่งรู้จักกันในหมู่เพื่อนฝูงว่า “แม็กกี” เป็นอดีตผู้ช่วยร้านเครื่องประดับ ที่เกษียณอายุเมื่อ 4 ปีก่อน มีลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายหนึ่งคนและหลานอีก 4 คน กล่าวหลังเข้ารับวัคซีนที่โรงพยาบาลในท้องถิ่นเมืองโคเวนทรี ภาคกลางของอังกฤษว่า เธอหวังที่จะกระตุ้นให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นรับวัคซีนโควิดตามอย่างเธอ พยายามและทำให้ดีที่สุดเพื่อกำจัดสิ่งเลวร้ายนี้

อังกฤษเริ่มแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคในวันอังคาร เป็นประเทศตะวันตกชาติแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับเสียงชื่นชมว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนเด็ดขาดในการเอาชนะไวรัสโควิด หน่วยงานต่าง ๆ ในสหราชอาณาจักรเริ่มแจกจ่ายและฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย ไล่ไปตั้งแต่ผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป และบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา



ส่วนที่เมืองบริสตอล ทางตะวันตกของอังกฤษ ชายสูงอายุ วัย 98 ปี ทราบชื่อแต่เพียงว่า “แจ็ค” ก็เป็นคนแรกในเมืองนี้ ที่ได้รับวัคซีนโควิดของไฟเซอร์ โดยชายสูงวัยนี้ยกหัวแม่มือทั้งสองข้างพร้อมเสียงเชียร์หลังจากพยาบาลฉีดวัคซีนให้เขาที่โรงพยาบาลเซาท์เมด เมืองบริสตอล นายแจ็ค บอกว่า เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในช่วงเวลาที่ได้รับแจ้งว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก

การฉีดวัคซีนให้ประชาชนหลายพันคนเกิดขึ้นทั่วสหราชอาณาจักรในวันอังคาร ซึ่งนายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขสหราชอาณาจักร เรียกว่า เป็นวัน “วี-เดย์” (V-day) หรือวันแห่งชัยชนะ และกล่าวว่า มันเป็น “อภินันทนาการความวิริยะอุตสาหะของนักวิทยาศาสตร์ และความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ และการทำงานหนักของประชาชนบางส่วน

นายแฮนค็อก กล่าวด้วยว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการต่อสู้กับศัตรูร่วม คือไวรัสโควิด-19 และบอกอีกว่า หนึ่งในความท้าทายอันดับต้น ๆ สำหรับปฏิบัติการแจกจ่ายวัคซีนนี้ คือการนำส่งวัคซีนให้ถึงศูนย์พักฟื้นและบ้านพักคนชราทั้งหลาย รวมทั้งเครือข่ายคลินิกและโรงพยาลต่าง ๆ เนื่องจากประเด็นด้านโลจิสติกส์ เพราะยาดังกล่าวต้องถูกเก็บในอุณหภูมิเยือกแข็งตลอดเวลา

แต่แม้ว่า วัคซีนจะเป็นสิ่งที่น่าจะช่วยยับยั้งการระบาดได้ นายแฮนค็อก กล่าวว่า ยังมีข้อบ่งชี้ว่า ไวรัสจะยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ประชาชนจนต้องควรทำตามหลักปฏิบัติและข้อจำกัดเพื่อควบคุมการระบาดทั้งหลายอย่างสม่ำเสมอ



ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร ซึ่งเดินทางเยือนโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน เพื่อให้กำลังใจคุณยาย คีแนน ที่เข้ารับวัคซีนโควิด-19 คนแรก กล่าวว่า การรับวัคซีนเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคนและเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศด้วย การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะช่วยให้ประเทศเอาชนะไวรัสร้าย แต่จะเป็นกระบวนการที่ยาวนาน ก่อนที่จะเอาชนะได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

นายจอห์นสัน กล่าวขณะเยี่ยมผู้ป่วยที่เตรียมรับวัคซีนที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน ด้วยว่า เขาจะไม่อยู่ในกลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนโควิด เพราะเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มเป้าหมายแรก ๆ

การเริ่มฉีดวัคซีนโควิดของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ชนิดที่มีรายงานผลความสำเร็จจากการทดลองครั้งใหญ่ จะกระตุ้นความหวังว่า โลกอาจกำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนักและคร่าชีวิตประชากรโลกไปแล้วมากกว่า 1.5 ล้านราย แม้ว่าการเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำมาก และวิธีการขนส่งจะเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อการใช้อยู่ในขณะนี้ก็ตาม



อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักหน่วงรุนแรงที่สุดในยุโรป มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 61,000 ราย เป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนหมู่ และเป็นประเทศแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ก่อนสหรัฐและสหภาพยุโรป อังกฤษสั่งวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค 40 ล้านโดส ซึ่งแต่ละคนต้องฉีด 2 โดส เพียงพอกับการฉีดให้กับประชาชน 20 ล้านคน จากจำนวนประชากรของประเทศ 67 ล้านคน และคาดว่าจะได้วัคซีนจำนวน 800,000 โดสภายในสัปดาห์แรก แต่แม้ว่าจะมีความโล่งใจที่ประชาชนได้รับวัคซีนโดสแรกจากจำนวน 2 โดสที่ต้องฉีด พวกเขาก็จะต้องรอต่อไปอีก 3 สัปดาห์ เพื่อฉีดโดสที่ 2 และยังไม่มีหลักฐานว่า การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน จะช่วยลดการแพร่กระจายของไวรัสได้