“สัณหพจน์” ขอบคุณนายกฯสั่งเร่งโครงการบริหารจัดการน้ำ

2020-12-08 12:20:40

“สัณหพจน์” ขอบคุณนายกฯสั่งเร่งโครงการบริหารจัดการน้ำ

Advertisement

“สัณหพจน์” ขอบคุณนายกฯลงใต้เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมสั่งเร่งโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ รับมือวิกฤตน้ำในอนาคต

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 2 รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)   เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.  ว่า ตนขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ภาคใต้ ขอบคุณนายกรัฐมนตรี ซึ่งลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เพื่อรับมือกับวิกฤตน้ำท่วมและน้ำแล้งในอนาคต วันนี้พี่น้องประชาชนใน อ.เชียรใหญ่ ปากพนัง หัวไทร และพื้นที่อื่นๆของจ.นครศรีธรรมราช รวมทั้งพี่น้องประชาชนภาคใต้ ต่างให้กำลังใจให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้นายกฯ สู้ๆ เพื่อบริหารบ้านเมืองให้สงบสุข และสามารถผ่านพ้นวิกฤตทั้งจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนี้ไปได้ด้วยดี


นายสัณหพจน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ดังกล่าว นายกฯ ได้สั่งให้เร่งดำเนินการโครงการบริหารจัดการน้ำ ที่เกี่ยวเนื่องกับพื้นที่จ.นครศรีฯ ดังนี้ 1.โครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วย 1.1 โครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 1.2.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 1.3. โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 1.4โครงการคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง (โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ปัจจุบันเสร็จสมบูรณ์แล้ว 2.โครงการขยายประตูระบายน้ำ และตั้งสถานีสูบน้ำบ้านแสงวิมาน ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง 3.พัฒนาโครงการแก้มลิง ป่าพรุควนเคร็ง 4.ปรับปรุงและยกระดับถนนสายบ้านเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช (ระยะทาง 18 ก.ม.) พร้อมก่อสร้างอาคารบังคับน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง

นายสัณหพจน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าด้านการช่วยเหลือ ขณะนี้ส่วนราชการและองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนและแจกจ่ายสิ่งของยังชีพประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคแล้วกว่า 200,000 ชุด อพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวน 41 จุด ประมาณ 2,000 คน ไปยังที่ปลอดภัย ขณะนี้สามารถกลับเข้าที่อยู่อาศัยได้แล้ว ในส่วนของระบบสาธารณูปโภค พบว่ามีถนนขาดชำรุดจำนวน 6 สาย เร่งซ่อมแทนให้สามารถใช้ได้ชั่วคราว (สะพานเบลีย์) แล้ว 4 สาย ทำทางเบี่ยงให้สามารถสัญจรได้แล้ว 2 สาย ขณะที่ระบบไฟฟ้า และน้ำประปา ขณะนี้กำลังประสานสำรวจพื้นที่ซึ่งน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้วให้ดำเนินการจ่ายไฟเร่งด่วน โดยจำเป็นต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนด้วย