"คุณหญิงสุดารัตน์" ควง "เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล" หาเสียง นายก อบจ.กาฬสินธุ์ อาสาเป็นผู้ช่วยทำงาน แก้ปัญหาสินค้าเกษตร ชูแนวทาง”แก้จน แก้เจ็บ” โดยใช้กลไกอบจ.ช่วยชาวบ้านนำสินค้าเกษตรไปขายทั่วประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ช่วยนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ หมายเลข 2 พรรคเพื่อไทย หาเสียงในนามส่วนตัวโดยเปิดเผยว่าสาเหตุที่มาช่วยเพราะอดีตนายก อบจ.ยงยุทธ หล่อตระกูล ซึ่งเป็นพ่อของนางเฉลิมขวัญเพราะเคยช่วยงานตอนเริ่มทำโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จนทำให้กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดแรกๆที่ทำโครงการ 30 บาทได้สำเร็จ
ซึ่งตลอดทั้งวันคุณหญิงสุดารัตน์ ได้ลงเยี่ยมเยียนพบปะพี่น้องเกษตรกรที่กำลังเกี่ยวข้าวเพื่อสอบถามเกี่ยวกับปัญหาราคาข้าว และเดินพูดคุยกับพ่อค้าแม่ขายในตลาดหลายแห่ง รวมทั้งได้ขึ้นเวทีปราศัยอีก 7 แห่ง ที่อ.เกษตรวิสัย อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.ร่องคำ อ.สหัสขันธ์ อ.สมเด็จ อ.เขาวง อ.กุฉินารายณ์ จากการพูดคุยกับเกษตรกร ได้พบว่าขณะนี้เกษตรกรใน จ.กาฬสินธุ์ กำลังอยู่ในช่วงยากลำบากมาก ต้องแบกรับภาระหนี้สินที่พอกพูน เนื่องจากราคาสินค้าเกษตร ทั้งข้าว ยาง ตกต่ำมาก เงินประกันราคายังไปไม่ถึง ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งชาวบ้านต่างบอกว่า รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลไม่ไหวแล้ว
คุณหญิงสุดารัตน์และนางเฉลิมขวัญผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 2 ได้ขึ้นปราศรัยโดยกล่าวว่าในขณะนี้ที่เกษตรกร ต่างส่งเสียงร้องทุกข์ว่า ไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลในการดูแลราคาพืชผลเกษตรให้ได้ราคายุติธรรม ดังนั้น เมื่อพึ่งรัฐบาลไม่ได้ความหวังเดียวที่เหลือคือต้องใช้กลไกของ อบจ. ในการช่วยดูแลราคาสินค้าเกษตร ช่วยชาวบ้านที่กำลังระทมทุกข์ นางเฉลิมขวัญ จึงมีนโยบายที่จะใช้กลไกของอบจ. มาช่วยแปรรูป และนำสินค้าเกษตรของกาฬสินธุ์ไปขายทั่วประเทศ
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าสนับสนุนนโยบายของนางเฉลิมขวัญ เพราะ 6-7 ปีมานี้ ได้พิสูจน์แล้วว่า ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำลงทุกปี รัฐบาลไม่สามารถดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่เดือดร้อนได้จริง นับวันเกษตรกรยิ่งทำ ก็ยิ่งเป็นหนี้เพิ่มขึ้นทุกปี นโยบาย “แก้จน” ของนางเฉลิมขวัญ จึงตอบโจทย์ ในการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ อย่างราคาข้าวขณะนี้เหลือเพียงกก.ละ 7-8 บาท แม้แต่ข้าวเหนียวเขาวง ที่อร่อยที่สุดยังขายได้แค่กก. ละ 9 บาทเท่านั้น ดังนั้นแทนที่จะต้องไปขายข้าวเปลือกผ่านพ่อค้าคนกลาง ผ่านโรงสี ที่ต่างกดราคาจนชาวนาขาดทุนย่อยยับ เราสามารถใช้กลไกของอบจ. เข้ามาช่วยชาวนาในการผลิตเป็นข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียวไปขายทั่วประเทศ จะทำให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น แทนที่จะขายข้าวเปลือก อบจ. จะมาพาผลิตข้าวสาร และช่วยขายตรงให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ ซึ่งผู้บริโภคก็จะได้ซื้อข้าวสารในราคาที่ถูกลงอีกด้วย ดังนั้นหากนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล ผู้สมัครนายกอบจ. หมายเลข 2 ชนะการเลือกตั้ง นโยบายแรกที่จะลงมือทำคือ “แก้จน” ให้เกษตรกร จะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น เกษตรกรก็จะมีรายได้มากขึ้น หนี้สินลดลง เศรษฐกิจทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์จะดีขึ้น ประชาชนจะกลับมากระเป๋าตุงอย่างแน่นอน
