“ทิพานัน”ลงพื้นที่จอมทอง พบชาวกรุงปลื้มโครงการคนละครึ่งกระจายรายได้ ทำยอดขายพุ่ง ให้กำลังใจ “บิ๊กตู่”ฝ่ามรสุมการเมือง
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตลาดหมู่บ้านสินทวีและชุมชนสินทวี เขตจอมทอง ดำเนินการฉีดพ่นหมอกควันป้องกันกำจัดยุงลาย ป้องกันไข้เลือดออก และสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ที่มีต่อโครงการคนละครึ่ง พบว่าผู้ประกอบการร้านค้าส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับโครงการนี้เป็นอย่างมาก หลังเข้าร่วมโครงการแล้วมีลูกค้ามาใช้สิทธิ์ตามโครงการเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดขายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการและการซื้อขายสามารถทำได้ง่ายขึ้น เป็นการกระจายรายได้ ทั้งนี้ยังมีผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันว่าจะมีโครงการคนละครึ่งในเฟส 2 อย่างแน่นอน ซึ่งคาดว่าจะได้ใช้สิทธิ์ในเดือน ม.ค.ปีหน้า
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รัฐบาลแก้โจทย์เศรษฐกิจได้ถูก ในการกะตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ สอดคล้องกับข้อมูลเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งแล้วกว่า 8.5 แสนร้านค้า มียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท
“เชื่อว่าการช่วยเหลือเยียวยาและปลุกการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้อย่างเห็นผล จะทำให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งพี่น้องประชาชนมองเห็นความตั้งใจทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝากให้กำลังใจนายกฯ ฝ่ามรสุมทางการเมือง และขอให้อยู่บริหารประเทศต่อไป แม้จะมีความพยายามดิสเครดิตต่างๆ นานาทางการเมือง และสร้างเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้เสียงชื่นชมของโครงการนี้เป็นคำตอบ ถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน”น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พี่น้องประชาชนยังมีความกังวลว่า ปัจจัยเรื่องการชุมนุมทางการเมือง ที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น สร้างความวิตกกังวลให้หลายฝ่าย จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้า โดยเฉพาะความพยายามปลุกปั่นปลุกระดมเรื่องของการรัฐประหารโดยแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม และส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งตนได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า ผู้บัญชาการทหารบกได้ออกมาปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวแล้วว่าไม่มีการรัฐประหาร จึงฝากส.ส.พรรคฝ่ายค้านและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้หยุดสร้างบรรยากาศให้เกิดความหวั่นวิตก เพื่อเรียกแขกให้มาร่วมชุมนุม โดยไม่สนใจว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และส่งผลต่อปัญหาปากท้องของประชาชน ที่กำลังจะลืมตาอ้าปากได้ อยากให้เห็นแก่พี่น้องประชาชนด้วย หยุดทำร้ายพี่น้องประชาชนเสียที ซึ่งมาถึงวันนี้เชื่อว่าประชาชนคงเห็นแล้วว่า รัฐบาลทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง และเริ่มตั้งคำถามว่า ส.ส.ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ชุมนุมทำเพื่อใคร
