สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิด 2 รายใน จ.เชียงราย

2020-11-30 20:00:11

สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิด 2 รายใน จ.เชียงราย

Advertisement

สธ.แถลงมีผู้สัมผัสกับหญิงไทยป่วยโควิด 19 จ.เชียงใหม่  328 ราย ผลตรวจออกแล้ว 152 ราย ยังไม่พบติดเชื้อ ส่วนเชียงรายพบผู้ป่วยโควิด 19 อีก 2 ราย เป็นเพื่อนร่วมงานของหญิงเชียงใหม่ ลักลอบเข้าประเทศเช่นกัน เผยมีผู้สัมผัสน้อย เหตุอยู่ที่พักเป็นส่วนใหญ่ ไป รพ.ทันที ทำให้โอกาสแพร่กระจายเชื้อต่ำ 

เมื่อวันที่ 30พ.ย. ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย 


นพ.โอภาส กล่าวว่า กรณีหญิงไทยอายุ 29 ปี ติดเชื้อโควิด 19 ที่ จ.เชียงใหม่ เป็นการลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มเติม 2 รายที่จ.เชียงราย มีความเกี่ยวเนื่องกันกับรายที่จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ประเทศเพื่อนบ้านมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างมาก ทำให้คนไทยในประเทศเพื่อนบ้านอยากเดินทางกลับเข้ามา จึงขอให้กลับเข้ามาในช่องทางที่ถูกต้องเพื่อเข้ารับการกักตัว 14 วัน นอกจากไม่ผิดกฎหมายแล้ว หากพบการติดเชื้อจะได้รับการรักษา ไม่ทำให้เชื้อแพร่ไปสู่คนในครอบครัวและชุมชน และขอฝากให้ประชาชนพื้นที่ชายแดนช่วยกันเป็นหูเป็นตา โดยเฉพาะเจ้าของบ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรม โรงงาน และสถานบันเทิง หากพบคนไทยหรือคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการกักตัว 14 วัน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยเร็ว และย้ำให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และสแกนไทยชนะ ซึ่งทำให้สามารถติดตามผู้สัมผัสได้ง่ายขึ้น 

ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า จากการติดตามผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด 19 เพศหญิงอายุ 29 ปี  จ.เชียงใหม่ มีทั้งหมด 328 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 107 ราย ตรวจแล้ว 69 ราย ไม่พบเชื้อ (คอนโดผู้ป่วย 2 ราย คอนโดเพื่อน 2 ราย สถานบันเทิง 55 ราย ห้างสรรพสินค้า 6 ราย รถโดยสารปรับอากาศเชียงใหม่ 1 ราย และคนขับรถ Grab Car 3 ราย) สัมผัสเสี่ยงต่ำ 149 ราย ตรวจแล้ว 83 ราย ไม่พบเชื้อ (สถานบันเทิง 2 ราย ห้างสรรพสินค้า 25 ราย บุคลากรโรงพยาบาลเอกชน 9 ราย และคอนโดผู้ป่วย 47 ราย) ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลการตรวจและติดตาม โดยทั้งหมดยังต้องกักกันและเฝ้าระวังอาการจนครบ 14 วัน ทั้งนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจ.เชียงใหม่ ได้กำหนดมาตรการป้องกันโรคในสถานที่ชุมนุมชนทุกแห่ง ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และการสแกนไทยชนะ หากสถานประกอบการ ร้านไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจะถูกดำเนินการอย่างเคร่งครัด รวมถึงการสั่งปิดกิจการชั่วคราว


นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ติดเชื้อ 2 รายที่ จ.เชียงราย เป็นหญิงไทยอายุ 26 ปี และ 23 ปี ทำงานในสถานบันเทิงใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เป็นเพื่อนร่วมงานกับหญิงอายุ 29 ปีติดโควิด 19 ที่ จ.เชียงใหม่ โดยลักลอบเดินทางเข้าทางช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีผู้สัมผัส 27 ราย แบ่งเป็นสัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย คือหญิงไทยอายุ 23 ปีที่เดินทางกลับมาด้วยกัน โดยวันที่ 29 พ.ย. มีอาการ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก เมื่อตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อโควิด 19 ถูกนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล พนักงานโรงแรมที่ขับพาไปร้านสะดวกซื้อ 1 ราย รถจักรยานยนต์รับจ้างจากหมู่บ้านไป อ.แม่สาย 1 ราย ทั้งคู่รอผลตรวจเชื้อ ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างที่พาไปอำเภอเมือง 1 ราย ไม่พบเชื้อ ที่เหลือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 23 ราย คือบุคลากรทางการแพทย์ 20 ราย และชุมชน 3 ราย คือ แม่ค้าร้านอาหาร ร้านขายของชำ พนักงานร้านสะดวกซื้อ และพนักงานโรงแรม ทั้งนี้ ถือว่ามีโอกาสแพร่เชื้อต่ำ เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรมที่พักและไปโรงพยาบาลเร็ว ทำให้มีผู้สัมผัสน้อย คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงรายได้กำหนดมาตรการป้องกันโรคในสถานที่ชุมชน เฝ้าระวังช่องทางเข้าออก โดยจัดระเบียบการขนส่งและสุ่มตรวจพนักงานขับรถชาวเมียนมา กำหนดมาตรการรองรับผู้กลับมาจากประเทศเมียนมา โดยเตรียมสถานที่กักกันโรคที่ราชการกำหนด กักกันอย่างน้อย 14 วัน สื่อสารให้ผู้ที่ลักลอบมาจากต่างประเทศเข้าสู่ระบบการตรวจคัดกรองและรักษา โดยให้รายงานตัวกับ อสม. รพ.สต. หรือผู้ใหญ่บ้าน และสำรวจจำนวนคนไทยในฝั่งท่าขี้เหล็กและต้องการกลับประเทศ เพื่อเตรียมการดำเนินการรับกลับอย่างปลอดภัย และดำเนินการกับผู้นำพาคนลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย