"เก้า จิรายุ" เปิดเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตได้ดีเพราะ"คุณแม่ก้อย"

2020-11-28 17:30:18

"เก้า จิรายุ" เปิดเบื้องหลังความสำเร็จในชีวิตได้ดีเพราะ"คุณแม่ก้อย"

Advertisement

นับว่าเป็นสองแม่ลูกคู่ซี้ "เก้า-จิรายุ ละอองมณี" และ "คุณแม่ก้อย-วรณัชชา ละอองมณี" ที่เปิดใจคุยกันถูกเรื่อง แชร์ความรู้สึกกันทุกอย่าง ล่าสุดทั้งคู่ได้ควงแขนกันมาคุยถึงความสนิทตั้งแต่เด็กจนโต ให้ได้ฟังแบบหน่ำใจผ่านรายการ "แฉ”  ตั้งแต่เรื่องการงอนกันแบบข้ามจังหวัด เรื่องหัวใจของลูกชาย และรวมไปถึงเรื่องที่เก้าเคยโดนทำของใส่จากคนเคยใกล้ชิด



ก่อนหน้านี้มีแฟนมั้ย ?



เก้า : ก็มีๆ มาบ้างครับ ตามปกติ ตามวัย คุยมาเรื่อยๆ แล้วแต่ความสัมพันธ์ เราไปทำไม่ดีกับเค้าก็อกหัก รสชาติชีวิต ประสบการณ์ของชีวิต

เวลามีแฟนจะเล่าให้แม่ฟังทุกคนมั้ย ?

เก้า : ส่วนใหญ่แม่จะรู้จักทุกคนครับ แม่จะเห็นอยู่แล้วอ่ะครับ ถ้าเรียกว่าคบเป็นแฟนมันก็จะต้องมีแบบอะไรมาให้เจอบ้างอยู่แล้ว ไม่ปิดบัง แต่ถ้าคุยแล้วแบบอาจจะไม่ได้คบกันนานก็แบบไม่ทันได้เจอก็ไปซะแล้ว



แม่ลูกคู่นี้สนิทกันมากคุยปรึกษาอะไรกันก็ได้ แม่ถึงขั้นถามว่าแม่สักหลังลายมังกรดีมั้ย ?

แม่ : เราก็ไม่เคยสัก เก้าก็ถามว่าอยากสักอะไร เราก็เลยตอบว่าอยากสักมังกร คือถ้าเราสักมังกรได้มันคงเท่ห์น่าดู แต่สุดท้ายก็สักลายแรกเป็นลายลูกชายเราเอง เป็นรูปน้องเก้าถือกีต้าร์ คือมีความรู้สึกว่ารูปแรกที่เราจะสัก เราไม่รู้เราไม่เคย สักอะไรดีละที่มันจะอยู่บนร่างกายเรา เราแค่รู้สึกว่าอันนี้มันคือรักแท้ เค้าอยู่กับเราตลอดไปแน่นอนก็เลยเป้นลายนี้ ถ้าเป็นชื่อแฟน เลิกกันไปก็จะทำยังไงดีละ ตอนแรกเค้าเข้าใจว่าเราพูดเล่น จนเรามาทำยูทูปกันแม่ก็เลยสักเลยเป็นรูปนี้เลย

ความสำเร็จทุกวันนี้มาจากแม่ ?

แม่ : ถ่ายโฆษณาชิ้นแรกจริงๆ อายุแค่ขวบเดียวเองนะ ฟลุ๊คค่ะ พาลูกของเพื่อนอีกคนไปเพื่อถ่ายรูป แล้วไอ้ตัวนี้ไปด้วยแบบหัวฟูเลย แล้วเค้าชี้คนนี้ว่าขอถ่ายรูปเก็บไว้ได้ไหม พออีกอาทิตย์เดียวเค้าโทรมาบอกได้งานภาพนิ่ง ตอนนั้นขวบเดียวเอง



แม่รู้มั้ยว่าวันหนึ่งลูกจะเป็นดาราดัง ?

แม่ : ไม่คิดเลย เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้รวย ถ้ามันจะมีรายได้ส่วนหนึ่งเข้ามาจากการถ่ายโฆษณาก็โอเคนะลองดู เค้าเก่งมาก เพราะตัวเค้าเลย เก้ามีพรสวรรค์ คือทุกอย่างพอมันถึงสเต็ป ตอนเด็กๆ บอกเลยว่า พอเล่นละครเต็มเรื่องเสร็จ แล้วมีละครให้ไปเล่นวันละ 2000 อะ สมัยก่อนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เยอะนะ ไม่ให้ไปเล่นนะจ๊ะ เพราะว่าเค้าไม่ได้เล่นเป็นพระเอก ไปเล่นเป็นเด็กคนนึงในเรื่อง ไม่ให้เล่น (คุณเริ่มเล่นเป็นผีขี้เหงา) คือโพซิชั่นที่เราตั้งใจไว้ คือเรามีความรู้สึกว่าถ้าคุณไปวันละ 2,000 เนี่ยเรื่องนี้มีตั้ง 10 คิว ไปเถอะ ได้ตั้ง 20,000 แต่แม่ให้ลูกไปโรงเรียนแล้วแม่ไปเปิดท้ายขายของได้กำไรวันละ 1,000 ดีกว่า ถ้าบทไม่น่าสนใจ ไม่เอาไม่รับ นี่คือความตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเลยกล้าพูดเลยว่าเราทำแบบนี้ แม่ไม่เคยบังคับ ตอนถ่ายละคร จะนั่งคุย ถามกันตลอดเลย เก้าครับ เก้าอยากทำมั้ย ตอนโตขึ้นมาหน่อยช่วง 8-9 ขวบ อยู่ระหว่างถ่ายนเรศวร มันจะมีคนพูดตลอดเลยว่าหลังจากนี้จะเป็นวัยเบรก เด็กจะไม่มีงานช่วงวัยนี้ (โตแหล่ไม่โตแหล่) ช่วงนั้นแม่จะคิดวางแผนเวทค่าใช้จ่ายเป็นปี สมัยก่อนเราเล่นละครเรื่องหนึ่งจะได้ประมาณแสนสองแสน แล้วก็มีงานอื่นๆ หารออกมาเราจะได้เดือนละประมาณสองหมื่นบาท เรามีบ้าน เราไปกินข้าวกอง เราเก็บเงินได้เป็นก้อนเลยนะ เราคิดแบบนี้เลย เราทำงานหนัง ละครแค่สามสี่เดือน แต่เก้าได้เรียนหนังสือ แม่ได้อยู่กับเก้า คุณโอเคมั้ย ถ้าคุณโอเค เราจะเดินไปด้วยกัน



สนิทกันขนาดนี้มีช่วงตีกันมั้ย ?

แม่ : โอ้!!! ว่าไงจ๊ะ


เก้า : มีอยู่แล้วครับ มีทุกช่วง
แม่ : จากประสบการณ์แม่เลยนะ ถ้าลูกวัยรุ่นยังไงก็แล้วแต่ อย่าได้เอาคนอื่นมาพูดแทนคุณเด็ดขาด ถ้าคุณรักเค้า คุณพูดไปเลยบอกเค้าเลย แสดงความรู้สึกเลย แม่ยอมทะเลาะกับลูก แต่แม่จะไม่ไปบอกคนอื่นให้มาพูดกับลูกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะเราทะเลาะกันตรงนั้นเราเข้าใจกัน พูดตรงๆ ถ้าเราผิดเราขอโทษเลย แต่ทั้งหมดที่แม่พูดแม่ทำอาจจะมีอันไหนไม่ถูกใจ แต่ไม่มีอันไหนเลยที่แม่ไม่รัก ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะแม่รัก

แม่เคยน้อยใจขนาดหนีออกจากบ้าน ?

แม่ : หลังๆ เรามีซื้อบ้านที่เชียงใหม่ พอทะเลาะกัน พูดกันไม่รู้เรื่อง งอนกัน แม่ก็จะขับรถออกไปคนเดียว
เก้า : โทรหาแล้วถามว่าขับรถไปไหนเหรอ
แม่ : ขับไปเรื่อยๆ (หัวเราะ)
เก้า : ด้วยความที่ผมมีแม่คนเดียว เวลาเค้าปวดใจ รู้สึกแย่กับชีวิต เค้าเหนื่อยเค้าอะไร เค้าก็ต้องการเราเป็นที่พึ่ง ก็เลยบอกว่าก็ขับดีๆ นะ สบายใจแล้วก็กลับมานะ เราแค่คิดว่าถ้าสบายใจแล้วเดี๋ยวเค้าก็กลับ มันก็จะดีของมันเอง พอกลับมาก็หาอะไรกินกัน มาทำกับข้าวให้กิน เนี่ยแหละคำว่าครอบครัว


แม่ : ไม่ว่าจะอะไรสักแค่ไหน เราจะไม่ลืมความเป็นแม่ จะโกรธ แต่ถึงมื้อทำกับข้าวให้กิน โกรธ งอน ไม่คุย แต่ถึงเวลามีกับข้าวมาวาง ไม่ใช่ว่าเราโกรธแล้วเราไม่ทำ เราโกรธแต่เรายังทำสิ่งนี้ให้เค้าเห็นว่า เห้ย!! ไม่เคยลืมนะถึงฉันจะโกรธแค่ไหน

เก้าเคยโดนทำของใส่เหรอแม่ ?

เก้า : ผมก็เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่งเหมือนกัน ช่วงที่โดนโกงจากผู้จัดการเก่า ช่วงนั้นแหละความสัมพันธ์แม่ลูกจะทะเลาะกันมาก
แม่ : คือเรากลัวการปะทะกับลูก เวลาพูดคุยกัน เราก็จะไว้ใจ ผจก.ให้ไปช่วยคุยกับลูกเรา เช่นถามว่าเค้ากลับรึยัง เป็นห่วง แต่ ผจก. เค้าก็จะบิดไปอีกแบบว่า แม่แกโทรมาเช็คแก มันจะเป็นแบบเนี่ย (คนกลางทำพัง)
เก้า :  แล้วในเรื่องที่บอกโดนทำของ ตอนนั้นที่เรารู้ว่าโดนเค้าโกงเราก็จะเฟดเค้าออกไป เพราะเค้าก็อาศัยอยู่ในบ้านเราที่เราซื้อ แล้วเราก็เข้าไปเช็คของในบ้านหลังจากที่เค้าออกไปแล้ว ก็เจอรูปผม รูปแม่ แล้วก็รูปเค้าประกบกัน แล้วมีสายสายสิญจน์พัน มีหมากพลู แม่บ้านที่ผมใช้ให้ไปเช็คเอามาให้ดู ก็เลยรู้ว่าโดนทำของ
แม่ : ตอนนั้นตั้งสติแล้วก็พูดกับตัวเองว่าไม่เป็นไร เรื่องเงินเอาไว้ก่อน ดึงเก้ากลับมาก่อน

ตอนนี้มีเก้าแฟนแล้ว เปลี่ยนไปยังบ้าง ?

แม่ : มีแฟนแล้วเหรอ
เก้า : ผมยังไม่ชินเลยเวลามีคนถามมีแฟนแล้วยัง ปกติมันจะตอบอัตโนมัติเลยว่า โสดครับ โสดครับ
แม่ : คือจริงๆแล้วเราไม่เคยห้ามเค้าเลย ทำอะไรก็แล้วแต่ให้ถามใจตัวเอง แล้วก็มีสติ ไม่ว่าวันนี้จะเป็นยังไง วันข้างหน้าจะเป็นยังไง รักแท้อยู่ตรงนี้นะ(มือชี้ที่หน้าอกตัวเอง)

แม่ทำให้เห็นว่าอะไรรู้มั้ย ซิงเกิ้ลมัมทั้งหลายต้องดูเทปนี้ไว้ ?

แม่ : เราก็เป็นซิงเกิ้ลมัมที่มีแฟนนะ ต้องขอบคุณพี่วีนะคะ คนที่เค้าช่วยดูแลเรามาช่วงเวลาหนึ่ง คือเราไม่ใช่ซิงเกิ้ลมัมที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนเลือกได้ คือเราเลือกที่จะเข้าใจเค้า แล้วเค้าก็เข้าใจเรา