“โรม”แนะ “ไพบูลย์”ลาออกไปเป็น ส.ส.ร.ดีกว่า หลังให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไข รธน.ในหลายประเด็น
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังเป็นกระบวนการที่ไม่รู้จะจบอย่างไร มีหลายส่วนที่จะต้องพูดคุยกัน แต่ยอมรับว่ากังวล กมธ. จะทำให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่จะมีขึ้นในอนาคตทำงานยากขึ้น เช่น กรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธาน กมธ.ให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขปลดล็อกหมวด 1 และ หมวด2 ที่ ส.ส.ร.จะเข้ามาแก้ไขได้ รวมถึงญัตติต่างๆที่เคยตกไปแล้ว ทั้งอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว.หรือมาตรา 279 ซึ่งเป็นบทบัญญัติรับรองคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สิ่งเหล่านี้หากเราล็อกไว้หมด ตกลงเรากำลังจะทำหน้าที่แทน ส.ส.ร.หรือไม่ ตนคิดว่าการทำหน้าที่ของ กมธ.สิ่งที่เราควรจะคิดให้มาที่สุดคือ จะทำอย่างไรให้ ส.ส.ร.สามารถทำงานได้ง่าย และร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ว่า ส.ส.ร.ทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ควรทำเรื่องนี้เท่านั้น ถ้าเราทำแบบนี้แสดงว่าเราทำแทน ส.ส.ร.และคิดแทนประชาชน ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการตั้ง กมธ. จึงเสนอว่า 1.ไปรณรงค์ในวันที่มี ส.ส.ร.เพื่อโน้มน้าวให้ ส.ส.ร.รับฟังเหตุผล และร่างรัฐธรรมนูญในสิ่งที่ต้องการ และ 2.นายไพบูลย์ลาออกไปเป็น ส.ส.ร.จะดีกว่าการที่จะมาใช้กลไกลของ กมธ. เพราะเราอยากเห็นรัฐธรรมนูญที่มาจาก ส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนของประชาชน
เมื่อถามว่า การปล่อยให้ส.ส.ร.มีอำนาจเต็มในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้มีการตีเช็คเปล่าหรือโอนอำนาจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าใช้วาทกรรมตีเช็คเปล่าอะไรเลย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส.ส. และ ส.ว. มีอำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นการตีเช็คเปล่าเหมือนกัน การที่เราให้อำนาจ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งเป็นกระบวนการหนึ่งที่เราสร้างความชอบธรรมที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับถัดไปเป็นรัฐธรรมนูญฉบับชอบธรรมนูญและแก้ปัญหา ถ้าบอกว่าเป็นการตีเช็คเปล่าก็แปลว่าเราไม่ไว้ใจประชาชน ดังนั้นอย่าให้มี ส.ส.ร.แต่งตั้งแบบที่รัฐบาลกำลังทำ ถ้าเป็นแบบนั้นรัฐธรรมนูญฉบับถัดไปก็มีปัญหาบ้านเมืองก็ไม่ไปไหน