"วัชระ"ร้อง ป.ป.ช.สอบปมขยายเวลาก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 4 ครั้ง 1,864 วัน เอื้อประโยชน์เอกชน
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 27 พ.ย. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยื่นหนังสือผ่านนายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผอ.กลุ่มวิเคราะห์และพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้น สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ถึงนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องการทุจริตการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กรณีการขยายเวลาเอื้อประโยชน์ให้เอกชน เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และแจ้งเบาะแสการทุจริตเงินตก 2 ก้อนใหญ่จากงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่จำนวน 12,280 ล้านบาท ที่มีการทำสัญญาจ้างก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2556 โดยนำหลักฐานสำคัญประกอบด้วยคำอภิปรายของนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2557 และคำพูดของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวในพิธีมอบนโยบายการบริหารราชการของประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2557 ที่ห้องประชุมงบประมาณ ชั้น 3 อาคารรัฐสภา 3 ซึ่งได้ส่งหนังสือร้องเรียนต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะเดียวกันก็ขอให้ ป.ป.ช.เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนหาเส้นทางการเงินต่อไป เพราะยังไม่เคยมีการสอบทุจริตเรื่องนี้แต่อย่างใด ทั้งที่มีการเปิดโปงกลางสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
นายวัชระ ระบุว่า สัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทำขึ้นเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2556 ครบ 900 วัน ในวันที่ 24 พ.ย. 2558 ตามสัญญาข้อ 20 ระบุว่าหากก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาต้องเสียค่าปรับวันละประมาณ 12 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2558 มีการขยายเวลาให้ผู้รับเหมาครั้งแรก 387 วัน ทำให้ราชการเสียประโยชน์และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2559 มีการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภา ครั้งที่ 2 จำนวน 421 วัน โดยอ้างเหตุปัญหาเรื่องดินขุดจากบริเวณก่อสร้าง ต่อมาวันที่ 16 ม.ค.2561 มีการอนุมัติให้ขยายเวลาครั้งที่ 3 จำนวน 674 วัน จากวันที่ 10 ก.พ. 2560 ถึงวันที่ 15 ธ.ค. 2562 โดยอ้างเหตุส่งมอบพื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ ศูนย์สาธารณสุข38 และอื่นๆ ทั้งที่สภาฯได้ส่งมอบพื้นที่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2559 รวมขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เกินกว่าสัญญาหลัก 900 วันโดยให้ขยายเวลาครั้งที่ 1-3 รวมทั้งสิ้นถึง 1,482 วัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการอนุมัติให้ขยายเวลาครั้งที่ 4 อีก 382 วันจากวันที่ 16 ธ.ค. 2562 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 รวมขยายเวลาครั้งที่ 1-4 รวมทั้งสิ้น 1,864 วันเกินกว่าสัญญาหลักถึง 2 เท่า ทำให้ทางราชการเสียประโยชน์และเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนอย่างเห็นได้ชัด จึงต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มาตรา 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งตนยินดีจะไปให้ปากคำด้วยตนเองต่อ ป.ป.ช.โดยด่วนที่สุด