เที่ยวบินโดยสารสายการบินโลว์คอสต์ “ฟลายดูไบ” ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี บินจากเมืองดูไบไปยังเมืองเทลอาวีฟ เมื่อวันพฤหัสบดี นับเป็นเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ ตามตารางบินเที่ยวแรก ที่บินตรงเชื่อมต่อระหว่าง 2 เมือง หลังจากยูเออีกับอิสราเอล ประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล เดินทางไปรอต้อนรับผู้โดยสารจากดูไบเที่ยวบินแรก ด้วยตนเอง ที่สนามบินเบน กูเรียน ชานเมืองเทลอาวีฟ ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรนียน ทางภาคตะวันตกตอนกลางของประเทศ เมื่อเที่ยวบินลงจอด หลังใช้เวลาเดินทางเกือบ 4 ชั่วโมง โดยเนทันยาฮูกล่าวว่า นี่ถือเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์”
วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ยูเออี ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ภายใต้การติดต่อประสานงานของรัฐบาลสหรัฐ
ชีค คอห์ลิฟาห์ บิน ซายีด อัล-นาห์ยาน ประธานาธิบดียูเออี ทวีตข้อความ เกี่ยวกับข้อตกลงผูกมิตรกับอิสราเอล ว่า จะช่วยส่งเสริม “ความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้า” ในตะวันออกกลาง
ยูเออีกลายเป็นอาหรับประเทศที่ 3 ที่ปรับความสัมพันธ์สู่ระกับปกติกับอิสราเอล หลังจากอียิปต์ในปี พ.ศ. 2522 และจอร์แดนในปี 2537
นายอาห์อิธ อัล-กาอิธ ซีอีโอสายการบิน ฟลายดูไบ เผยว่า บริษัทจะบินให้บริการผู้โดยสาร บนเส้นทาง ดูไบ-เทลอาวีฟ วันละ 2 เที่ยว ส่วน 2 สายการบินของอิสราเอลคือ เอล อัล และ อิสแรร์ จะเริ่มบินบนเส้นทางเดียวกัน ในเดือนหน้า ขณะที่ เอธิฮัด แอร์เวย์ สายการบินแห่งชาติสายที่ 2 ของยูเออี ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงอาบูดาบี จะเริ่มบินตรงสู่เมืองเทลอาวีฟ ในเดือน มี.ค.ปีหน้า.