"อาชีวะ"ย้ำ"มือยิง"กลางม็อบไม่ใช่"การ์ดราษฎร"

2020-11-27 11:05:01

"อาชีวะ"ย้ำ"มือยิง"กลางม็อบไม่ใช่"การ์ดราษฎร"

Advertisement

"อาชีวะ" ย้ำ "มือยิง" ม็อบไม่ใช่ "การ์ดราษฎร" ติง ตร.ควรหาข้อมูลให้ละเอียดก่อนแถลง


เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายเกวลัง ธัญญะเจริญ หัวหน้าการ์ดภาคีประชาชน หรือ เก่ง อาชีวะ ชี้แจงกรณีที่ นายภาสพงศ์ กุลอมรกานต์ อายุ 25 ปี อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันมีนบุรีโปลีเทคนิค ถูกกลุ่มการ์ดอาชีวะรุมทำร้ายหลังก่อเหตุปาระเบิดปิงปอง และยิงปืนใส่กลุ่มการ์ดอาชีวะ จนนายประภากร ศักดิ์ศรีเท้า อดีตนักศึกษาอาชีวะสถาบันเทคนิคปทุมธานี ถูกยิงเข้าหน้าท้อง บริเวณคอมมูนิตี้มอลล์ อเวนิว รัชโยธิน ถนนรัชดาภิเษก โดย นายเกวลัง กล่าวว่า น้องคนที่ถูกยิงเข้ามาช่วยงานดูแลมวลชน แต่มีผู้ไม่หวังดีประมาณ 8 คนเข้ามาทำร้าย ทั้งนี้ระหว่างนำคนเจ็บส่งไปโรงพยาบาล ได้สอบถามผู้ก่อเหตุที่ถูกทำร้ายว่ายิงปืนทำไม เจ้าตัวอ้างเป็นการ์ดอาชีวะ ตนยืนยันไม่ใช่การ์ดเพราะทีมงานไม่เคยพบเห็น และเชื่อว่าไม่ได้เป็นการ์ดราษฎร เพราะไม่มีปลอกแขน และเมื่อไปตรวจกระเป๋าคนยิงก็ไม่พบปลอกแขนการ์ดอาชีวะ มีเพียงเอกสารและบัตรประชาชนเท่านั้น หากไม่มีปลอกแขนเราจะมีสัญลักษณ์ที่รู้กันภายในโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อสร้างความกลมกลืนกับกลุ่มผู้ชุมนุม


นายเกวลัง กล่าวอีกว่า เหตุยิงกันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประกาศยุติการชุมนุมประมาณ 30-40 นาที โดยมีคนเดินเข้ามาหาเรื่องกลุ่มคนเจ็บที่หน้าร้านแม็คโดนัลด์ จากนั้นมีการปะทะคารมก่อนที่จะชกต่อยกับการ์ดอาชีวะ แล้วมีคนขว้างระเบิดเข้ามา จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุวิ่งถอยออกมาเพื่อเปิดแนวยิง ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุอื่นๆ หนีได้หมด มีเพียงตัวยิงที่ล้อมจับก่อนถูกรุมทำร้าย ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนโดนผลักอกนั้น ตนต้องขอโทษแทนกลุ่มการ์ดด้วย เพราะตนสั่งให้เปิดวงเพื่อนำคนเจ็บออกมา เป็นความผิดพลาดที่ผลักดันสื่อออกไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากอารมณ์ที่เราต้องการควบคุมมวลชนที่กำลังโมโห ซึ่งคนที่ผลักอาจไม่เห็นบัตรสื่อ เพราะพื้นที่เกิดเหตุค่อนข้างมืดจึงอาจเกิดจากความเข้าใจผิดได้


ส่วนที่ตำรวจออกมาชี้แจงว่าเป็นการทะเลาะกันเองระหว่างนักเรียนอาชีวะนั้น ตนมองว่าไม่ถูกต้อง ตำรวจควรสืบสวนให้ชัดเจนก่อนที่จะให้ข่าวกับสื่อมวลชน เรามีความชัดเจนว่าสถาบันไหนเข้ามาบ้าง ไม่เข้าใจว่าตำรวจรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดแล้วหรือไม่ เพราะหากเป็นนักเรียนอาชีวะจริงแล้วมีปัญหาส่วนตัว เมื่อพบกันในงานก็ต้องทะเลาะกันแล้ว แต่กลับเป็นการรอให้คนบางตาก่อนจึงจะก่อเหตุ หากเป็นเรื่องส่วนตัวคงไม่มีการวางแผนเป็นขั้นตอนเช่นนี้ พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาเราได้ยุติความขัดแย้งระหว่างสถาบันอาชีวะด้วยกันเพื่อมาดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม โดยไม่ใช้ความรุนแรง เน้นสันติวิธีและการเจรจาเป็นหลัก อีกทั้งยังประสานงานกับตำรวจตลอดเวลา พร้อมยืนยันว่าไม่มีการซื้อการ์ดมาดูแลมวลชนแต่อย่างใด เพราะทุกคนมาด้วยใจ