“ไพบูลย์” เสนอ กมธ.ร่าง รธน.ห้ามแตะพระราชอำนาจทุกหมวด

2020-11-26 10:00:36

“ไพบูลย์” เสนอ กมธ.ร่าง รธน.ห้ามแตะพระราชอำนาจทุกหมวด

Advertisement

“ไพบูลย์” เตรียมเสนอ กมธ.ร่าง รธน.ห้ามแตะพระราชอำนาจในทุกหมวดของ รธน.

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ...  กล่าวว่า ตนจะเสนอต่อ กมธ.ให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหก ซึ่งร่างเดิมบัญญัติว่า “การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จะกระทำมิได้ กรณีที่รัฐสภาวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญมีลักษณะตามวรรคห้า ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป”

นายไพบูลย์ กล่าวว่า จะเสนอแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นดังนี้ “การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมทั้งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในหมวดอื่นของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะกระทำมิได้ และต้องบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลให้ มาตรา 269 มาตรา 272 และมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไป เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการชอบด้วยวรรคห้าหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ไม่เป็นไปตามวรรคห้าให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญคืนแก่สภาร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการแก้ไข กรณีที่สภาร่างรัฐธรรมนูญไม่แก้ไขให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป” 

นายไพบูลย์ กล่าวต่อ ส่วนเหตุผลที่เสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหก เพื่อให้เป็นไปตามความห่วงใยของกลุ่มประชาชนปกป้องสถาบันฯที่ออกมาคัดค้านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เนื่องจากห่วงกระทบพระราชอำนาจ ซึ่งตนแม้จะโหวตให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร.แต่มีจุดยืนที่ไม่ยอมให้มีการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ ดังนั้นในฐานะกรรมาธิการฯจึงเสนอให้นอกจากตามร่างรัฐธรรมนูญปี60 เดิม คือห้ามแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์แล้ว ตนเสนอเพิ่มเติมให้ห้ามแก้ไขพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ให้ครอบคลุมในหมวดอื่นๆของรัฐธรรมนูญด้วย และ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256/13 วรรคหก เมื่อส.ส.ร.จัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการชอบด้วยวรรคห้าหรือไม่ แทนเดิม กำหนดให้รัฐสภาเป็นองค์กรวินิจฉัย

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนที่เสนอให้ต้องบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ส.ส.ร.ให้ มาตรา 269 มาตรา 272 และมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไป ด้วยเห็นว่าคง มาตรา 269 เพื่อรักษาสิทธิ์ ส.ว. ให้ดำรงตำแหน่งครบตามวาระ ส่วนที่เสนอให้คงมาตรา 272 สาเหตุเพราะมีที่มาจากประชาชน 15 ล้านคน ออกเสียงเห็นชอบเฉพาะมาตรานี้ ซึ่งมีผลในระยะ 5 ปีแรกเท่านั้น และเสนอให้คง มาตรา 279 เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการดำเนินคดีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมืองและข้าราชการที่ดำเนินการไปในสมัย คสช. ดังนั้น ตนจะเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้ที่ประชุมกมธ.พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหกดังกล่าวข้างต้น เมื่อที่ประชุมกมธฯมีการพิจารณามาตราดังกล่าว