"ปิยบุตร" โต้ข้อกล่าวหาอยู่เบื้องหลังม็อบราษฎร ชี้พูดช่วงนี้สะท้อน 3 ข้อ "ไม่ทันยุคสมัย-ความหวาดกลัว-ทำลายกันแบบเก่าๆ"
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการกล่าวหาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า รวมถึงนายปิยบุตร อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ในนาม "คณะราษฎร" รวมถึงกล่าวหาว่าเป็นผู้มีแนวคิดล้มล้างสถาบัน ว่า เป็นการใส่ร้าย เข้าข่ายหมิ่นประมาทอย่างชัดเจน แต่ส่วนตัว ที่ผ่านมาก็อดทนในการใช้กฎหมายอย่างนี้ฟ้องร้องกัน เพราะเชื่อในเรื่องเสรีภาพการแสดงออก และเชื่อว่าถ้าเป็นความเท็จประชาชนก็จะสามารถตัดสินได้เองว่าจะเชื่อใคร อย่างไรก็ตาม การพูดพูดในช่วงนี้ คือพูดในช่วงที่มีการชุมนุมของคณะราษฎร พูดในช่วงที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็อดคิดไม่ได้ว่าวิธีคิดแบบนี้สะท้อนอะไรบ้าง ซึ่งน่าจะมีอยู่ 3 ข้อ คือ 1. สะท้อนถึงความเป็นกลุ่มคนที่ไม่ทันยุคสมัย ดูถูกเยาวชนอนาคตของชาติ มองด้วยแว่นสายตายุคเก่าอย่างเช่นในยุคสงครามเย็นว่าต้องมีผู้อยู่เบื้องหลัง 2. สะท้อนความหวาดกลัว ไม่พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง กับโลกใบใหม่ และไม่รู้จะจัดการอย่างไร จึงใช้วิธีการหลอกตัวเองไปเรื่อยๆ ให้สบายใจ และ 3.สะท้อนถึงการทำลายกันแบบเก่าๆ ใช้มุกเก่าๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีการตั้งคณะกรรมการปรองดอง และมีการเสนอชื่อนายธนาธร นายปิยบุตรเข้าร่วมเป็นกรรมการชุดนี้ด้วย โดย นายปิยบุตร กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคณะกรรมการปรองดองเกิดขึ้นมาแล้วหลายชุด ครั้งนี้ก็เช่นกัน สำหรับตนเองนั้น หลักคือไม่ใช่ว่าใครที่ไปนั่งเป็นกรรมการบ้าง แต่ต้องเป็นเรื่องของเนื้อหา และขอบเขตของการทำงานนี้ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกและเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่อย่างสันติ 2.การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3.ปฏิรูปสถาบัน ซึ่งถ้าจงใจละเลยข้อใดไป คณะกรรมการชุดนี้ก็จะเหมือนชุดก่อนๆ คือมีแต่รายงาน ไม่ได้ถูกนำไปใช้ ดังนั้น ไม่สำคัญว่าตน หรือนายธนาธรจะเข้าไปอยู่ในกรรมการหรือไม่ แต่อยู่ที่มีการพูดคุยข้อเรียกร้องนี้หรือไม่