ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีการครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสกับปวงชนชาวไทยมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีคติสอนใจที่ทั้งสอนและบันดาลใจให้ทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดีของสังคม ทว่าเหนืออื่นใด พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพสกนิกรในทุกๆ ด้าน รวมทั้งคำสอนในเรื่อง “การปิดทองหลังพระ” ซึ่งเรื่องที่ นิว ๑๘ นำมาเสนอในครั้งนี้ นับเป็นตัวอย่างหนึ่งซึ่งชัดเจนมากเหลือเกิน
หลายคนอาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานปัจจัย ค่าภัตตาหาร ค่า ยา ค่าเวชภัณฑ์ และค่าโลหิต สำหรับพระภิกษุอาพาธเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ ๑๐๐,๐๐๐
บาท จนกระทั่งโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพใบเสร็จรับเงินจาก รพ.สงฆ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อไม่นานมานี้
นพ.สมนึก อร่ามเธียรธำรง ผอ.รพ.สงฆ์เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานเงินส่วนพระองค์แก่ รพ.สงฆ์ทุกเดือน เดือนละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลพระภิกษุและสามเณรอาพาธ มาตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ จนถึงปี ๒๕๕๙ รวมระยะเวลากว่า ๓๐ ปีแล้ว เป็นเรื่องที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรพ.หลายคนก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่ตนเอง ที่ทำงาน รพ.สงฆ์มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ แต่กว่าจะทราบเรื่องก็ต่อเมื่อมีโอกาสเข้ามาทำงานบริหารเมื่อปี ๒๕๕๑
“ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้แทนพระองค์ ได้บอกกล่าวว่า พระองค์ท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ใครรู้ พระองค์ท่านทรงมีพระราชประสงค์ที่จะทำนุบำรุงพุทธศาสนา โดยเล็งเห็นว่าพระภิกษุ และสามเณรทั่งประเทศเวลาอาพาธ ทาง รพ.สงฆ์ไม่ได้เก็บค่าใช้จ่าย ถือเป็นภาระที่ ต้องการเงินมาใช้ในการรักษาพระสงฆ์ทั่วประเทศกว่า ๑๐๐ ล้านบาทต่อปี รวมทั้งซื้อ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่าฉายรังสี ค่ายาเคมีบำบัด และการส่งต่อไปรักษาที่ รพ.อื่นด้วย” ผอ.รพ.สงฆ์ เผย
“ทุกๆ เดือนเมื่อผู้แทนพระองค์นำเงินมามอบให้ รพ.สงฆ์ ทาง รพ.จะออกใบเสร็จให้ทุกครั้ง ผมรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปิดทองหลังพระ ซึ่งทุกคนควรยึดถือเป็นแบบอย่างในการทำความดีโดยไม่ต้องประกาศให้ใครรู้ ไม่ทำความดีเพื่อเอาหน้า แล้ววันหนึ่งการทำความดีที่มากขึ้นเรื่อยๆ คนก็จะรับรู้เอง”
นอกจากนี้ นพ.สมนึก ยังเปิดใจต่อไปว่า ทั้งตนเองและเจ้าหน้าที่ทุกคนได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านมาปรับใช้ ทุกครั้งที่ใช้จ่ายเงินจะไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ใช้อย่างมีเหตุมีผลแต่ไม่ได้ประหยัดจนเกินเลย ถ้าสิ่งไหนเป็นประโยชน์ในการรักษาเราก็จะทำ”
ทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งความเสียสละของ “พ่อ” ผู้ปิดทองหลังพระที่ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งลูก ๆ ทุกคนสมควรรับรู้และยึดถือเป็นแบบอย่างตลอดไป