"ชวน" ลงตรังบ้านเกิด ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีตามกำลังศรัทธา

2020-11-23 14:05:05

"ชวน" ลงตรังบ้านเกิด ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีตามกำลังศรัทธา

Advertisement

นายชวน หลีกภัย ลงตรังบ้านเกิดร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีตามกำลัง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี ราคายางตกต่ำมานาน 6 ปี เผยต้องตีรถยนต์กลับกรุงเทพฯ ด่วน เพื่อประชุมระหว่างประเทศ 4 ประเทศ ต้องเตรียมตัวเนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษ ชมตัวเองเล่นการเมืองไม่เคยซื้อเสียง พร้อมฝากข้อคิดชาวบ้านอย่าซื้อเสียงขายสิทธิ แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมุมมอง 7 ปี การเลือกตั้ง อบจ.โดยบอกให้ถามผู้สมัคร

วันที่ 22 พ.ย. ที่สำนักสงฆ์ห้วยไทร หมู่ 8 บ้านห้วยไทร ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานรัฐสภา นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง (พี่ชายนายชวน) นายระลึก หลีกภัย น้องชายนายชวน เป็นประธานและร่วมกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี โดยมีคณะสงฆ์ ชาวบ้าน กลุ่มสตรี นักเรียนให้การต้อนรับกว่า 1,000 คน พร้อมมีการแสดงคณะกลองยาวและการรำมโนราห์ต้อนรับ ทั้งนี้ คณะเจ้าภาพได้จัดเตรียม ต้นเทียนพระพุทธเจ้า ต้นไทรทอง และต้นยมชวน ให้นายชวน ปลูกด้วย สำหรับเงินที่นายชวนและคณะเรี่ยไรมาร่วมบุญรวมยอดทั้งสิ้น 110,000 บาท

นายชวน กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือให้มาช่วยทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อหาปัจจัยส่วนหนึ่งสำหรับบูรณะและพัฒนาพื้นที่สำนักสงฆ์ห้วยไทร วันนี้ตนต้องรีบมาเพราะวันที่ 23 พ.ย. 2563 ช่วงเช้าจะต้องประชุมภายใน และช่วงบ่ายจะต้องประชุมระหว่างประเทศ 4 ประเทศ ในฐานะสภาฯที่มีส่วนร่วม ซึ่งการประชุมเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ภาษาเราจึงต้องมีการเตรียม และต้องรีบกลับกรุงเทพฯโดยรถยนต์ใช้เวลาไม่เกิน 10 ชม. สำหรับการเรี่ยไรทำบุญวัดนั้นด้วยสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ยางพาราตกต่ำมา 6 ปี การเรี่ยไรจึงยากจึงขอสนับสนุนจากคนสนิททั้งที่กรุงเทพฯและในตรัง ได้มา 110,000 บาท




ส่วนสาเหตุที่ตนพูดภาษาใต้ เนื่องจากต้องการอนุรักษ์ภาษาถิ่นใต้ไว้ เพราะเป็นที่น่าเป็นห่วงมาก ภาคอีสาน ภาคเหนือยังรักษาภาษาถิ่นได้ดี แต่จากการศึกษาพบว่าภาคใต้จะสูญเสียภาษาก่อนภาคอื่นๆ เพราะตอนนี้เด็กๆจะหันมาพูดภาษากลางกันมาก จึงต้องขอให้ช่วยกันใช้และอนุรักษ์ภาษาถิ่นไว้อย่าได้ลืมบ้านตนเอง พร้อมกับกล่าวถึงเส้นทางการเมืองของตนเอง ตนเองเป็นลูกชาวบ้าน อาศัยอยู่กับวัดมา 8 ปี เรียนจบมีโอกาสลงเล่นการเมือง ที่ผ่านมาเล่นการเมืองจะยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริตทั้งต่อหน้าและลับหลัง จะไม่มีการซื้อเสียงอย่างเด็ดขาด จึงฝากให้พ่อแม่พี่น้องยึดถือการเมือง ที่ไม่มีการซื้อเสียงขายสิทธิด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม นายชวน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองการเลือกตั้ง อบจ.ในรอบ 7 ปี เกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง รวมทั้งการเลือกตั้งในครั้งนี้ว่าปัจจัยพรรคการเมืองจะส่งผลต่อการเลือกตั้งนายก และ สจ.ในครั้งนี้หรือไม่ เพราะหลายจังหวัดมีผู้สมัครในนามพรรคใหญ่ลงสมัครด้วย รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ เช่น ที่ จ.สงขลา เป็นต้น รวมทั้งการแข่งขันหาเสียง เพราะนายชวนต่อต้านการซื้อเสียงมาโดยตลอด และมุมมองการหาเสียงของ อบจ.ควรจะเสนอนโยบายต่อประชาชน เหมือนดังเช่นการเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ แต่นายชวนปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยบอกว่า ให้ไปถามผู้สมัครรับเลือกตั้ง