“จุรินทร์” หนุน คกก.สมานฉันท์ใช้หลักฉันทามติ ส่วนประเด็นที่ยังไม่ตกผลึกส่งต่อให้ คกก.อีกชุดพิจารณา มั่นใจที่มา ส.ส.ร. ไม่มีการล็อกสเปค
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคณะกรรมการสมานฉันท์ที่จะมีการตั้งขึ้นมาหาทางออกประเทศว่า ขณะนี้ก็ค่อนข้างชัดขึ้นว่าจะมีการตั้งขึ้นมา 2 คณะ คณะแรกเป็นคณะที่ประกอบด้วย 7 ฝ่ายตามที่ตนและพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอ และพรรคร่วมรัฐบาลได้ให้ความเห็นชอบไปตั้งแต่เบื้องต้น เพื่อดำเนินการในเรื่องของปัญหาเฉพาะหน้า แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคำสั่งของประธานรัฐสภาที่จะออกมา ส่วนอีกชุดหนึ่งเป็นคณะกรรมการที่จะดูปัญหาระยะกลาง ระยะยาว
“สำหรับชุดแรกนั้น ประชาธิปัตย์จะเสนอแนวทางการดำเนินการในลักษณะที่เป็นฉันทามติ ก็คือใช้มติที่เป็นเอกฉันท์ประกอบกับการให้แต่ละฝ่ายรับไปดำเนินการเพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าถ้าเป็นเสียงข้างน้อยแล้วก็จะถูกเสียงข้างมากบังคับให้ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น แต่ว่าถ้าใช้มติเอกฉันท์เท่านั้นก็แสดงว่าจะต้องเห็นพ้องต้องกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นเสียงข้างมาก ข้างน้อย ท่านไม่ต้องกังวล ก็อยากให้เข้าร่วม โดยใช้หลักฉันทามติ หรือ มติเอกฉันท์ อะไรที่เป็นเอกฉันท์สามารถทำได้ก็ให้ดำเนินการไปตามมตินั้น ถ้าเป็นหน้าที่รัฐบาล รัฐบาลก็ไปทำ ถ้าเป็นรัฐสภา รัฐสภาไปทำ ถ้าเป็นหน้าที่องค์กรไหน หน่วยงานไหน หน่วยงานนั้นก็ไปทำ แต่ประเด็นไหนที่ยังไม่สามารถที่จะหาฉันทามติได้ ก็อาจจะยกยอดไปให้คณะกรรมการชุดที่สองที่จะต้องพิจารณาดำเนินการระยะกลาง ระยะยาวได้รับไปดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ โดยอันนี้จะเป็นหลักที่จะให้ผู้แทนของพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นผู้รับไปเสนอในที่ประชุมต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว
เมื่อถามถึงที่มาของ ส.ส.ร. นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ได้ระบุไว้ชัดในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมลงชื่อสนับสนุนด้วย ซึ่งได้กำหนดว่าให้ ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรง 150 คน และอีก 50 คนจะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม เป็นกลุ่มที่มาจากการสรรหาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 10 คน วุฒิสภา 10 คน สรรหาจากที่ประชุมอธิการบดี 20 คน และสรรหาจากตัวแทนของนักศึกษา เยาวชน อีก 10 คน แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับกรรมาธิการวิสามัญที่ได้มีการจัดตั้งขึ้นซึ่งจะเป็นผู้พิจารณาว่ารูปแบบจะออกมาเป็นอย่างไร
ถ้าถามว่าประชาธิปัตย์เห็นด้วยแบบไหน นับหนึ่งก็เห็นด้วยกับร่างของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะได้ลงนามไป แต่ว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นไม่ได้ ขอให้ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการที่เราตั้งขึ้นเป็นผู้ไปพิจารณาขั้นสุดท้ายต่อไปส่วนที่มีความกังวลว่า ส.ส.ร. 50 คน จะมีการล็อกสเปคนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ใครคนใดคนหนึ่งจะล็อกสเปคนั้น ตนไม่คิดว่าจะทำได้ง่าย อย่างเช่นในที่ประชุมอธิการบดี ก็คงมีใครไปล็อกสเปคได้ เพราะทุกท่านก็เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่สามารถใช้ดุลพินิจของตนเองได้อยู่แล้วว่าจะทำอย่างไร