แคลิฟอร์เนียเริ่มบังคับใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืนแล้ว ในความพยายามที่จะหยุดยั้งการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหนังสือพิมพ์ลอส แอนเจลีส ไทม์ส รายงานว่า สถานการณ์ล่าสุดในรัฐทางตะวันตกของประเทศแห่งนี้ เลวร้ายมากกว่าช่วงการระบาดระดับสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาด้วย
แคลิฟอร์เนีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านรายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เป็นรัฐที่ 2 ที่ประกาศใช้เคอร์ฟิวตามหลังเท็กซัส โดยมาตรการเคอร์ฟิว รายวันครั้งใหม่ จะเริ่มจากเวลา 22.00 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 13.00 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาในไทย จนถึงเวลา 05.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ไปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม แต่หากจำเป็นอาจขยายออกไปอีก
ทั่วสหรัฐ ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจากโควิด-19 พุ่งผ่าน 2,000 รายเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 12 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 255,000 ราย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลก
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศล่าสุดในวันศุกร์ อยู่ที่ประมาณ 187,000 ราย หลายรัฐบังคับใช้สวมหน้ากากอนามัย และใช้มาตรการคุมเข้มต่าง ๆ เพื่อพยายามควบคุมการระบาดของไวรัส และในรัฐเท็คซัส เตรียมส่งกองกำลังพิทักษ์ชาติ เข้าประจำการในเมืองเอล ปาโซ เพื่อช่วยภารกิจที่สถานที่เก็บศพในเมืองแห่งนี้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือซีดีซี ของสหรัฐ ยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางในวันหยุดยาว “ขอบคุณพระเจ้า” ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ เพื่อป้องกันการะบาดของเชื้อโรค ซึ่งปกติแล้ว ในช่วงวันหยุดนี้ จะเป็นสัปดาห์ที่มีผู้คนพลุกพล่น ในการเดินทางในสหรัฐ โดยเมื่อปีที่แล้ว มีประชาชนประมาณ 26 ล้านคนเดินทางผ่านสนามบินในประเทศ