"ปิยบุตร"หาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.อุตรดิตถ์ ชู 5 นโยบายหลักจากการออกแบบร่วมกับ ปชช. จบปัญหาหมาแมวจรจัด ศูนย์ค้นหาตัวตน
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ จ.อุตรดิตถ์ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับ นายปัณณวัฒน์ (จเร) นาคมูล ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ เบอร์ 4 ในนามตัวแทนคณะก้าวหน้า โดยเริ่มต้นที่ตลาดหัวดง ต่อด้วยตลาดฝายหลวง และตลาดเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ขณะที่ในช่วงบ่ายเปิดเวทีพบปะเยาวชน นักศึกษา และประชาชน ให้ทุกคนได้ตั้งคำถาม โดยได้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น และการใช้นโยบายในการรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งที่จะถืงนี้ ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการเลือกตั้ง อบจ. และ ส.อบจ.ง
นายปิยบุตร กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ คณะก้าวหน้าค่อนข้างมั่นใจกับการแข่งขันในสนามนี้ เราได้คนที่มีประสบการณ์ในการทำงานช่วยเหลือประชาชน มีประสบการณ์ในการทำงานการเมืองท้องถิ่น ที่สำคัญคือมีอุดมการณ์เดียวกัน โดยคุณปัณณวัฒน์ หรือชื่อเดิมคือคุณเจรนั้น ช่วยงานเราในฐานะหัวหน้าคณะทำงานใน จ.อุตรดิตถ์ตั้งแต่เมื่อครั้งเราเป็นพรรคอนาคตใหม่ และยิ่งเมื่อประกอบกับการออกแบบนโยบาย การสู้กันด้วยนโยบาย ซึ่งเรามอบโจทย์ให้กับผู้สมัครทุกจังหวัดไปจัดทำเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ว่างบ อบจ.แต่ละปีที่จังหวัดได้รับ จะถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง ซึ่งนี่จะเป็นการพลิกมิติใหม่ใหักับการเมืองท้องถิ่น อย่างนี้ก็ยิ่งทำให้เชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจ เลือกคุณปัณวัฒน์ไปเป็นผู้บริหาร อบจ.
"ผมได้ทราบเรื่องการทำนโยบายของคุณปัณณวัฒน์ หรือคุณจเรแล้วชื่นชมมาก เพราะเป็นการออกแบบนโยบายที่ทุกคนมีส่วนร่วม โดยการจัดในลักษณะเวทีสาธารณะ แล้วเชิญประชาชนคนอุตรดิตถ์มาร่วมพูดคุยกัน นำปัญหาขึ้นมาถก แล้วร่วมกันออกแบบ เช่น นโยบายอย่างศูนย์ค้นหาตัวตน รวมถึงนโยบายอย่างจบปัญหาหมาแมวจรจัด ซึ่งนี่เป็นปัญหาของคนอุตรดิตถ์ที่พบว่าในเมืองแห่งนี้มีหมาแมวจรจัดเยอะมาก ก็เลยมีคนเสนอขึ้นมา ทุกคนยอมรับและร่วมกันออกแบบ กลายมาเป็นนโยบาย ว่าจะใช้งบประมาณ อบจ.ไปกับเรื่องนี้เท่าไหร่ อย่างไรบ้าง ซึ่งอย่างนี้คือเรื่องที่ตอบสนองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจริงๆ และก็อย่างที่เราเคยบอกว่าต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุด ต้องให้ความสำคัญๆ และ 20 ธ.ค.นี้ ต้องออกไปเลือกตั้ง ใช้เสียงของเราเปลี่ยนแปลงบ้านของเราเอง เปลี่ยนประเทศไทยเริ่มต้นได้ที่บ้านเรา" นายปิยบุตร กล่าว
ด้าน นายปัณณวัฒน์ กล่าวว่า จากการที่ได้ไปรณรงค์หาเสียงที่ผ่านมา พบว่าประชาชนชาวอุตรดิตถ์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต้องการความเปลี่ยนแปลง ต้องการคนใหม่ๆ เข้ามาบริหาร และโดยเฉพาะคณะก้าวหน้าที่ใช้นโยบายในการหาเสียง เราก็จะได้พูดคุยทำความเข้าใจว่าจะมีสิ่งดีๆ จะมีอะไรพัฒนาขึ้นบ้างในจังหวัดของพวกเขาหากเลือกตนเป็นนายก อบจ. ทั้งนี้ นโยบายหลักๆ ที่เราเตรียมไว้มีอยู่ 5 เรื่อง ได้แก่ 1. การเปิดเผยข้อมูลเพื่อป้องกันการทุจริต ทุกการประมูล ทุกโครงการที่เราจัดทำต้องมีการเปิดเผยให้ประชาชนได้รับรู้ ความคืบหน้าต่างๆ ต้องมีอย่างต่อเนื่อง การประชุมสภา อบจ. ต้องมีการถ่ายทอดสดให้คนได้ดู 2. ทรัพย์สิน อบจ. ต้องตอบสนองประชาชน อุปกรณ์เครื่องจักรกล รถแบ็คโฮ เครื่องเจาะบาดาล เหล่านี้ประชาชนต้องเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ส่วนสนามกีฬาจังหวัดต้องปรับปรุงพัฒนาทำให้ดีเป็นทั้งที่สถานที่ออกกำลังกาย และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เปิดให้ทุกคนใช้ได้
3.ด้านสาธารณสุข เราพบว่าอำเภอทางเหนือง เช่น น้ำปาด บ้านโคก นั้นอยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลจังหวัดค่อนข้างมาก ผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาในตัวเมืองต้องเดินทางไกลกว่า 150 กิโลเมตร ดังนั้นแม้ อบจ.จะไม่มีเม็ดเงินขนาดสร้างโรงพยาบาลได้ แต่สามารถที่จะทำเป็นศูนย์สาธารณสุขในถิ่น่ทไกลออกไป หรืออาจเริ่มดูแลผู้ป่วยเฉพาะด้านก่อนเช่นทำเป็นศูนย์ฟอกไต เป็นต้น 4.ด้านการศึกษา จัดทำศูนย์ค้นหาตนเอง ใครต้องการค้นหาความถนัดของตนเองด้านไหนก็สามารถเข้ามาทำได้ที่นี่ ไม่ว่าจะดนตรี กีฬา ออกแบบ เกษตร ฯลฯ และถ้าอยากจะแสดงออกอย่างไรต่อไปในอนาคตเราก็จะเปิดพื้นที่ให้ และนโยบายที่ 5.จบปัญหาหมาแมวจรจัด เพื่อสวัสดิการสัตว์ และสุขภาพความปลอดภัยประชาชน โดยจะทำเป็นศูนย์พักพิง ฟื้นฟู มีพนักงานดูแล ตลอดจนรณรงค์เรื่องความรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพสัตว์กับคนเลี้ยงสัตว์ด้วย เพราะนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่บางคนอาจจะมองว่าเล็กๆ แต่ก็อยู่ในชีวิตประจำวันของพี่น้องชาวอุตรดิตถ์