"นิพนธ์"ลุยช่วยน้ำท่วม อ.สะเดา จ.สงขลา สั่งบูรณาการทุกหน่วย ดูแลชีวิตประชาชนให้ปลอดภัย
เมือวันที่ 22 พ.ย. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 รอง ผวจ.สงขลา นายอำเภอสะเดา หัวหน้าสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจิตอาสาลงพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่บริเวณบ้านน้ำลัด หมู่ที่ 2 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา พร้อมทั้งบูรณาการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด
นายนิพนธ์ กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ได้แก่ อ.เมือง อ.นาหม่อม อ.หาดใหญ่ และอ.สะเดา ในส่วนของอำเภอสะเดานั้น ได้มีการสั่งการแก้ไขสถานการณ์มาตั้งแต่เมื่อกลางดึกของวันที่ 21 พ.ย. โดยให้นายอำเภอสะเดาและจนท.ปภ. และองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนเนื่องจากกระแสน้ำไหลท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้า และระวังอันตรายจากสัตว์เลื้อยคลานอีกด้วย
"ได้กำชับให้ทุกฝ่าย ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในภาวะที่เกิดอุทกภัยใหญ่ ในช่วงของฤดูมรสุมที่กำลังมาถึงในจังหวัดภาคใต้ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก และก็เป็นพื้นที่ที่น้ำจะเริ่มไหลบ่าไปยังคลองอู่ตะเภา และไหลเข้าสู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ต่อไป ซึ่งอ.สะเดา เป็นอำเภอต้นน้ำ ดังนั้น เมื่อฤดูมรสุมมาถึง จึงขอให้ทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมในการที่จะดูแลพี่น้องประชาชน ให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมตลอดไปถึงหน่วยงานระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับกรมต่อไป ซึ่งในพื้นที่ก็ขอให้ประสานศูนย์ปภ.เขตในการที่จะขอเครื่องจักรกลต่างๆเข้ามาช่วยในพื้นที่ และสิ่งสำคัญที่กำชับก็คือดูแลความปลอดภัยในชีวิตต้องดูแลความปลอดภัยในชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นก็จัดเรื่องความปลอดภัยเรื่องการเคลื่อนย้ายอพยพคนแล้ว ย้ำว่าต้องให้พี่น้องประชาชนได้มีอาหารทานครบทุกมื้อแล้อย่างใกล้ชิด และดูแลสวัสดิการ สุขภาวะของพี่น้องอย่างใกล้ชิด"นายนิพนธ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ต.สำนักแต้ว อ.สะเดาในขณะนี้ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน และกว่า 70 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณสะพานข้ามคลองห้วยตือหง๊ะ หมู่ที่ 6 มีน้ำขึ้นสูงรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติมสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติได้ใน 2-3 วัน