ชาวนายโสธรนำข้าวไปตากบริเวณสนามบินเก่าแทนตากบนถนน เพื่อความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน

2020-11-22 17:15:13

ชาวนายโสธรนำข้าวไปตากบริเวณสนามบินเก่าแทนตากบนถนน เพื่อความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน

Advertisement

ที่จังหวัดยโสธรชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวได้พากันนำข้าวเปลือกของตนที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดบริเวณลานจอดของสนามบินเก่าซึ่งเลิกใช้งานไปแล้ว แทนการนำข้าวไปตากตามถนนเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน

วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวว่ามีผู้ใช้รถใช้ถนนได้ขับรถเหยียบทับข้าวเปลือกของชาวนาที่นำข้าวไปตากไว้กลางถนนจนทำให้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา และในขณะที่กรมทางหลวงได้ออกประกาศว่า การนำข้าวเปลือกไปตากแดดบนถนนนั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ดังนั้นในพื้นที่จังหวัดยโสธรได้มีชาวนาหลายคนที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวก็ต่างหาสถานที่ที่ปลอดภัยในการนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดด โดยเฉพาะชาวนาในพื้นที่ ต.โคกสำราญ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และอีกหลายตำบลใกล้เคียงกันต่างพากันนำข้าวเปลือกของตนที่เก็บเกี่ยวเสร็จไปตากแดดไว้ที่บริเวณลานจอดเครื่องบินภายในสนามบินกองทัพบก เลิงนกทา ซึ่งเป็นสนามบินเก่าที่มีการก่อสร้างมาตั้งปี พ.ศ. 2506 สมัยสงครามเวียดนาม โดยทหารสหรัฐอเมริการ่วมกับพันธมิตรอังกฤษ,ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ร่วมกันก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสนามบินสำรองให้กับเครื่องบินที่ถูกยิงจนขัดข้องได้ลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุด แต่ปัจจุบันได้เลิกใช้งานไปแล้วและกองทัพบกเป็นผู้ดูแล

ปัจจุบันลานจอดเครื่องบินและรันเวย์ยังคงอยู่ในสภาพใช้งานได้ตามปกติ ชาวนาที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงจึงได้ขออนุญาตหน่วยทหารที่ดูแลซึ่งทหารก็อนุญาตให้ใช้ตากข้าวได้ ชาวนาจึงนำข้าวเปลือกของตนไปตากแดดไล่ความชื้นก่อนจะนำไปขาย แทนการนำข้าวเปลือกไปตากเอาไว้ตามถนนเหมือนพื้นที่อื่นเพื่อความปลอดภัยของตัวชาวนาเองและผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและยังเป็นการผิดกฎหมาย โดยในแต่ละวันก็จะมีชาวนาพากันนำข้าวไปตากที่สนามบินแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆและจะใช้ระยะเวลาตากข้าวคนละประมาณ 2-3 วัน ก็จะพากันขนย้ายข้าวเปลือกที่แห้งสนิทกลับบ้านไปและส่งขายเป็นรายได้บางส่วน แต่ในช่วงกลางคืนชาวนาก็จะไปนอนเฝ้าข้าวของตนที่ตากเอาไว้ทุกคืนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพเข้าไปลักขโมยข้าวเปลือกที่ตากเอาไว้